สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (FAI) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 14.38 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 2.24 ล้านล้านดอลลาร์)
รายงานของ NBS ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ตัวเลข FAI ขยายตัวระดับเลขสองหลักนั้น เนื่องจากเป็นการเปรียบเทียบฐานกับที่ต่ำของช่วงต้นปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนหยุดชะงัก
หากเทียบกับระดับของปี 2562 ยอด FAI ในช่วงเดือนม.ค.- เม.ย. ขยายตัว 8%
ยอด FAI โดยภาครัฐของจีน ปรับตัวขึ้น 18.6% ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. ขณะที่การลงทุน FAI ในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 21%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การลงทุน FAI ครอบคลุมถึงการใช้จ่ายด้านทุนในโครงสร้างพื้นฐาน อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร และสินทรัพย์ที่จับต้องได้ประเภทอื่นๆ