ราคาบิตคอยน์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากรัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินและบริษัทด้านการชำระเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต ขณะที่ธนาคารกลางจีนย้ำว่า สกุลเงินคริปโตไม่สามารถนำมาใช้ในการชำระหนี้ได้
ณ เวลา 10.01 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 2,828 ดอลลาร์ หรือ 6.53% แตะที่ 40,490 ดอลลาร์
รัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินและบริษัทด้านการชำระเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนถือเป็นความพยายามล่าสุดที่จะสกัดความร้อนแรงในตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
สมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติของจีน, สมาคมการธนาคารของจีน และสมาคมการชำระหนี้ของจีนได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยระบุว่า ภายใต้คำสั่งห้ามดังกล่าวนี้ สถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารและช่องทางต่างๆที่รับชำระเงินทางออนไลน์ จะไม่สามารถให้บริการใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตแก่ลูกค้าได้ เช่น การจดทะเบียน, การซื้อขาย และการชำระบัญชี
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า สถาบันการเงินจะไม่สามารถให้บริการด้านการฝากเงิน, บริการด้านทรัสต์, การบริการสกุลเงินคริปโต อีกทั้งไม่สามารถออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต ทั้งนี้ ราคาเงินคริปโตผันผวนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเทสลาได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตแบบรายวัน โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ราคา Dogecoin ทะยานขึ้นถึง 20% หลังจากนายมัสก์เปิดเผยว่า เขาได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงระบบเพื่อให้การทำธุรกรรมด้วยสกุลเงิน Dogecoin มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่วนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายมัสก์ส่งสัญญาณผ่านการโพสต์บนทวิตเตอร์ว่า บริษัทเทสลาอาจเทขายบิทคอยน์ทั้งหมดที่ถืออยู่ ซึ่งส่งผลให้ราคาบิตคอยน์ร่วงลงหลุดจากระดับ 45,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 เดือน