บิตคอยน์ทรุดหนัก 20% หลุดระดับ 37,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือนในวันนี้ หลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต
ทั้งนี้ บิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับ 36,100 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. โดยบิตคอยน์ดิ่งลงแตะ 35,393 ดอลลาร์ในวันดังกล่าว
ถึงแม้บิตคอยน์ทรุดตัวลงในวันนี้ แต่ก็ยังคงพุ่งขึ้น 40% นับจากต้นปีนี้ และทะยานขึ้นมากกว่า 300% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนประกาศห้ามไม่ให้สถาบันการเงินและบริษัทด้านการชำระเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนถือเป็นความพยายามล่าสุดที่จะสกัดความร้อนแรงในตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังถูกกดดัน หลังมีข่าวก่อนหน้านี้ว่า กระทรวงยุติธรรมและกรมสรรพากรสหรัฐ กำลังเข้าสอบสวนบริษัท Binance Holdings ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากอาจพัวพันการฟอกเงินและการหลบเลี่ยงภาษี
ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และสำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) ออกแถลงการณ์เตือนก่อนหน้านี้ว่า สกุลเงินคริปโตไม่มีมูลค่าในตัวเอง และผู้ที่เข้าลงทุนก็ควรเตรียมตัวที่จะสูญเสียเงินทั้งหมด
นอกจากนี้ ธนาคารกลางตุรกีได้ออกคำสั่งห้ามการใช้สกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ ในการซื้อขายสินค้าและบริการในประเทศ โดยระบุถึงความเสียหายและความเสี่ยง "ที่ไม่สามารถเยียวยาได้" จากการทำธุรกรรมดังกล่าว
ส่วนทางการอินเดียก็เตรียมออกกฎหมายห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งรวมถึงบิตคอยน์ โดยจะมีการสั่งปรับผู้ที่ทำธุรกรรม หรือถือครองสกุลเงินคริปโต