ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 40,000 ดอลลาร์ในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจากนางเคธี วูด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ark Investment Management กล่าวว่าเธอยังคงมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินบิตคอยน์ และคาดว่า ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์
ณ เวลา 14.57 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 1,713 ดอลลาร์ หรือ 4.46% แตะที่ 40,103 ดอลลาร์
ราคาบิตคอยน์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ทรุดฮวบลงเกือบ 30% สู่ระดับ 30,600 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยราคาบิตคอยน์ดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายนี้หลังจากนางเคธี วูด ซีอีโอของบริษัท Ark Investment Management ยังคงมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินบิตคอยน์ แม้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ทรุดฮวบลง 5 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ก็ตาม นอกจากนี้ นางวูดยังคาดการณ์ว่า ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นแตะระดับ 500,000 ดอลลาร์
ซีอีโอของ Ark Investment กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า "หุ้นที่มีความผันผวนสูงได้ถูกเทขายออกมาอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งบิตคอยน์ก็ร่วงลงเช่นกัน โดยล่าสุดดิ่งลงไปอยู่ต่ำกว่า 38,000 ดอลลาร์ แต่เรามีสายตาที่กว้างไกลกว่านั้น และมุมมองของเราอยู่เหนือสถานการณ์ดังกล่าว ใช่..เรามั่นใจว่าราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นในวันข้างหน้า"
นางวูดยังได้แสดงความเห็นต่อกรณีที่นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาประกาศว่าจะไม่รับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์ของเทสลาเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยนางวูดกล่าวว่า "เมื่อพลังงานทดแทนเข้ามามีบทบาทเป็นหนึ่งเดียวกับเทคโนโลยีการขุดเหรียญบิตคอยน์ เมื่อนั้น อีลอน มัสก์ จะกลับเข้ามา และจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์นั้น"
"ดิฉันคิดว่าเรากำลังอยู่ในปรากฎการณ์ที่เรียกว่า Capitulation หรือการที่สินทรัพย์เกือบทุกประเภทถูกเทขายออกมา แต่นี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเข้าช้อนซื้อ ไม่ว่าสินทรัพย์เหล่านั้นจะเป็นอะไรก็ตาม" นางวูดกล่าว
นอกจากนี้ นางวูดยังคาดการณ์ว่า กองทุน ETF บิทคอยน์จะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่หลายคน
การแสดงความเชื่อมั่นของซีอีโอ Ark Investment นับว่าสวนทางกับรัฐบาลจีนที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของราคาสกุลเงินคริปโต โดยเมื่อวานนี้ รัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต ซึ่งรวมถึงการซื้อขาย, การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลว่า ความผันผวนของสกุลเงินคริปโตจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน