บิตคอยน์ดิ่งลงใกล้หลุดระดับ 35,000 ดอลลาร์ในวันนี้ แตะระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ส่งผลให้เดือนนี้บิตคอยน์ทรุดตัวลงเกือบ 40%
ทั้งนี้ บิตคอยน์ร่วงลงกว่า 8% สู่ระดับ 35,339 ดอลลาร์ในวันนี้ และดิ่งลง 37% นับตั้งแต่ต้นเดือนนี้ และหากบิตคอยน์ยังคงไม่ฟื้นตัวขึ้นก่อนสิ้นเดือนนี้ เดือนพ.ค.นี้ก็จะเป็นเดือนที่บิตคอยน์ทำสถิติปรับตัวย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2554
บิตคอยน์เคยทะยานเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในกลางเดือนเม.ย. ขานรับ Coinbase Global Inc. ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐ เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ราคาบิตคอยน์ก็ได้หายไปกว่า 50% โดยไหลลงแตะระดับ 30,261 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเข้าควบคุมตลาดคริปโตของทางการจีนและสหรัฐ รวมทั้งการที่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ประกาศงดรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์เทสลา โดยอ้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดบิตคอยน์ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก
ทางด้านนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และสภาแห่งรัฐของจีน ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางการจีนจะเข้ากวาดล้างการทำเหมืองขุดบิตคอยน์ รวมทั้งควบคุมพฤติกรรมการซื้อขายของนักลงทุนเพื่อป้องกันมิให้ความเสี่ยงของปัจเจกบุคคลลุกลามไปสู่สังคมในวงกว้าง
แถลงการณ์ระบุว่า การคุมเข้มบิตคอยน์มีความจำเป็นเพื่อป้องกันระบบการเงินของประเทศ
"การกวาดล้างอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมด้านหลักทรัพย์ที่ผิดกฎหมาย และการลงโทษอย่างรุนแรงต่อกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาความมีเสถียรภาพในตลาดหุ้น, ตราสารหนี้ และปริวรรตเงินตรา" แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้สั่งห้ามสถาบันการเงินให้บริการใดๆที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร
ท่าทีดังกล่าวของจีนสอดคล้องกับกระทรวงการคลังสหรัฐที่ระบุว่า ทางกระทรวงจะออกมาตรการกวาดล้างตลาดสกุลเงินคริปโต รวมทั้งการทำธุรกรรมในตลาดดังกล่าว
ทั้งนี้ รายการโอนเงินสกุลคริปโตที่มีมูลค่าตั้งแต่ 10,000 ดอลลาร์ขึ้นไป จะต้องมีการรายงานไปยังกรมสรรพากรสหรัฐ (IRS)
"สกุลเงินคริปโตได้สร้างปัญหาการตรวจสอบเป็นอย่างมาก โดยมีการสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการหลบเลี่ยงภาษี" แถลงการณ์ระบุ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเสนอเพิ่มงบประมาณ 8 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ IRS รวมทั้งเพิ่มพนักงานเต็มเวลาจำนวนมากกว่า 86,000 รายในช่วง 1 ทศวรรษข้างหน้าเพื่อรับมือกับการเติบโตของสินทรัพย์คริปโต
"ภาคธุรกิจที่รับสินทรัพย์คริปโตที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ จะต้องรายงานต่อ IRS เช่นเดียวกับเงินสด โดยภายในบริบทของกฎระเบียบการรายงานบัญชีทางการเงินฉบับใหม่นั้น สกุลเงินคริปโต, บัญชีแลกเปลี่ยนสินทรัพย์คริปโต และบัญชีการให้บริการด้านการชำระเงินซึ่งมีการรับสกุลเงินคริปโต จะต้องถูกรวมอยู่ภายใต้กฎระเบียบดังกล่าว" กระทรวงการคลังระบุ