JBS SA บริษัทผลิตเนื้อสัตว์ของบราซิลและเป็นรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ตกเป็นเป้าโจมตีทางไซเบอร์ โดยสถานการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ว่าห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารของโลกกำลังถูกคุกคาม จากเดิมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ JBS เปิดเผยผ่านอีเมลเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) ระบุว่า ทางบริษัทได้ตัดสินใจปิดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในอเมริกาเหนือและออสเตรเลีย หลังจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทถูกโจมตี ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ JBS ต้องเลื่อนการทำธุรกรรมการซื้อขายกับบรรดาลูกค้าและซัพพลายเออร์
รายงานระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพนักงานทั้ง 2 กะ และทำให้หนึ่งในโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของ JBS ในแคนาดาต้องถูกระงับ นอกจากนี้ โรงฆ่าสัตว์จำพวกวัวและแกะของ JBS ในออสเตรเลียได้ถูกระงับเช่นกัน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผลกระทบของโรงงาน JBS ในสหรัฐ
การโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับโรงงานของ JBS นั้นเกิดขึ้นเพียง 3 สัปดาห์หลังจากบริษัทโคโลเนียลของสหรัฐถูกโจมตีโดย ransomware หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ทำให้การลำเลียงน้ำมันผ่านท่อส่งน้ำมันความยาว 5,500 ไมล์ไปยังภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐต้องหยุดชะงักลง โดย DarkSide ซึ่งเป็นแฮกเกอร์จากยุโรปตะวันออกเป็นผู้ทำการโจมตีดังกล่าว
Elliptic ซึ่งเป็นบริษัทเชี่ยวชาญด้านการแกะรอยในระบบบล็อกเชนเปิดเผยว่า บริษัทโคโลเนียลได้ตัดสินใจยอมจ่ายเงินให้แก่แฮกเกอร์เป็นจำนวนเงินรวม 90 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการเปิดท่อส่งน้ำมัน หลังจากถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยโคโลเนียลจ่ายเงินค่าไถ่เป็นสกุลเงินบิตคอยน์ ซึ่งหลังจากที่แฮกเกอร์ได้รับเงินค่าไถ่แล้ว ก็ได้นำบิตคอยน์ที่ได้รับไปทำการฟอกเงิน โดยขายในแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพื่อแลกเป็นสกุลเงินที่ออกโดยธนาคารกลางของชาติต่างๆ และมีการใช้กันโดยทั่วไป