องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) รายงานในวันนี้ว่า ราคาอาหารทั่วโลกในเดือนพ.ค. ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน หลังปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ดันราคาอาหารขึ้นเกือบ 40% เมื่อเทียบรายปี
FAO ระบุว่า ดัชนีรวมของราคาอาหารในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบรายเดือน แตะที่ 127.1 จุด หรือเพิ่มขึ้น 39.7% เมื่อเทียบรายปี โดยองค์ประกอบหลักทั้งหมดในดัชนีต่างเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาเมล็ดข้าว ธัญพืช น้ำมันพืช และน้ำตาล ต่างเพิ่มขึ้นจากระดับในเดือนเม.ย.อย่างน้อย 6%
ราคาเมล็ดข้าวและธัญพืช ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีสัดส่วนมากที่สุดปรับเพิ่มขึ้น 6% ในเดือนพ.ค. โดยได้แรงหนุนจากราคาข้าวโพด ข้าวบาร์เลย์ และข้าวฟ่างที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาข้าวสาลีร่วงลงในช่วงครึ่งหลังของเดือน หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์แรก ขณะที่ราคาข้าวยังคงทรงตัว
ราคาน้ำมันพืชเพิ่มขึ้น 7.8% ในเดือนพ.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง และน้ำมันคาโนลาที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากการผลิตในเอเชียลดลง ส่วนราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้น 6.8% เนื่องจากการเก็งกำไรจากผลผลิตที่ต่ำในบราซิล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีราคาอาหารโลกประจำเดือนของ FAO อ้างอิงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์อาหารทั่วโลกจำนวน 23 ประเภท ซึ่งครอบคลุมราคาสินค้าที่แตกต่างกันจำนวน 73 รายการ โดยเทียบกับปีฐาน
ทั้งนี้ FAO มีกำหนดเปิดเผยรายงานดัชนีราคาอาหารโลกประจำเดือนครั้งหน้าในวันที่ 8 ก.ค.