หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐซึ่งออกมาเรียกร้องนโยบายการค้าระหว่างประเทศฉบับใหม่นั้น ได้แสดงความวิตกกังวลถึงนโยบายการค้าของปธน.โจ ไบเดน ซึ่งมีความใกล้เคียงกับนโยบายในยุคของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เป็นอย่างมาก
นายจอน โกลด์ รองประธานสมาพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า "รัฐบาลใหม่จัดตั้งมาเป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว แต่เรายังไม่เห็นนโยบายการค้ากับจีนที่ชัดเจน"
"สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อหลาย ๆ บริษัท ซึ่งกำลังพาธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 และเผชิญกับภาระทางภาษีอย่างหนัก"
ด้วยเหตุที่ต้นทุนภาษีของบริษัทที่ซื้อสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น บริษัทสหรัฐกว่า 3,500 แห่ง ซึ่งรวมถึงโคคา-โคล่า ดิสนีย์ และฟอร์ด จึงได้ยื่นฟ้องร้องนโยบายภาษีของอดีตปธน.ทรัมป์มาแล้วก่อนหน้านี้
นายดั๊ก แบร์รี โฆษกสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน ซึ่งเป็นองค์กรการค้าไม่แสวงหาผลกำไร กล่าวว่า "ภาษีศุลกากรไม่เป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับผู้บริโภคชาวอเมริกันและธุรกิจที่ต้องแบกรับต้นทุนสูง โดยภาษีศุลกากรจำนวนมากยังคงอยู่ และยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกยกเลิกหรือไม่ หรือยกเลิกเมื่อใด"