คณะกรรมการบาเซิลฝ่ายกำกับดูแลด้านการธนาคาร (Basel Committee on Banking Supervision) วางแผนที่จะกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกกันสำรองเงินทุนให้เพียงพอ หากเกิดกรณีการขาดทุนจากการถือครองสกุลเงินบิตคอยน์ ซึ่งบ่งชี้ว่าคณะกรรมการบาเซิลมีแผนการที่จะใช้มาตรการเชิงอนุรักษ์นิยมเพื่อป้องกันไม่ให้ธนาคารรายใหญ่ทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินบิตคอยน์ในปริมาณมาก
หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ธนาคารพาณิชย์ทั่วโลกก็จะเผชิญกับข้อกำหนดในการตั้งสำรองเงินทุนที่เข้มงวดมากขึ้นเมื่อมีการถือครองสกุลเงินบิตคอยน์และทรัพย์สินสกุลเงินคริปโตประเภทอื่นๆ โดยมาตรการดังกล่าวของคณะกรรมการบาเซิลซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ด้วยนั้น มีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้เสถียรภาพด้านการเงินทั่วโลกถูกคุกคามจากความผันผวนของตลาดคริปโต
คณะกรรมการบาเซิลได้เสนอว่า ธนาคารที่ถือครองบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโตประเภทอื่นๆ จะต้องกันเงินทุนสำรองเพื่อป้องกันความเสี่ยงซึ่งอยู่ในอัตราสูงถึง 1,250% โดยในทางปฏิบัตินั้น ธนาคารจะต้องถือครองสกุลเงินดอลลาร์เป็นมูลค่าเท่ากับจำนวนเงินที่ถือครองบิตคอยน์ โดยมีการกำหนดเงินทุนขั้นต่ำอยู่ที่ 8%
"การเติบโตของสินทรัพย์สกุลเงินคริปโต และการบริการที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงิน และทำให้ธนาคารพาณิชย์เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้น การกำหนดเงินทุนสำรองดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบเมื่อเกิดกรณีความเสียหาย โดยไม่ทำให้บรรดาผู้ฝากเงินและธนาคารเจ้าหนี้ต้องได้รับความเสียหายไปด้วย" คณะกรรมการบาเซิลระบุในรายงาน
อย่างไรก็ดี ข้อเสนอดังกล่าวจะเปิดให้สาธารณชนได้แสดงความคิดเห็นก่อนที่จะบังคับใช้เป็นมาตรการ โดยคณะกรรมการบาเซิลกล่าวว่า นโยบายเบื้องต้นเหล่านี้อาจมีการปรับเปลี่ยนอีกหลายครั้งตามภาวะตลาด และยังไม่มีการระบุช่วงเวลาที่แน่ชัด นอกจากนี้ กระบวนการทำข้อตกลงและการบังคับใช้กฎเกณฑ์ของบาเซิลทั่วโลกในกรณีนี้อาจต้องใช้เวลาหลายปี