นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลงภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปัจจัยที่คาดว่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงนั้นมาจากภาวะติดขัดด้านอุปทานที่เริ่มคลี่คลายลง ขณะเดียวกันนางเยลเลนระบุว่า มีหลักฐานบางส่วนที่แสดงให้เห็นว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อเริ่มลดน้อยลง
นางเยลเลนแสดงความเห็นดังกล่าวในระหว่างการแถลงต่อคณะอนุกรรมการด้านบริการการเงินแห่งวุฒิสภาสหรัฐเมื่อคืนนี้ที่อาคารรัฐสภาเกี่ยวกับการเสนอของบประมาณของกระทรวงการคลังประจำปี 2565
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับอุปสรรคอย่างมากในช่วงที่เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจ หลังจากที่รัฐบาลได้ออกมาตรการเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อนายจอห์น เคนเนดี วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันตั้งกระทู้ถามว่า เธอคิดว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะยังคงพุ่งแตะระดับ 5% เหมือนกับในเดือนพ.ค.หรือไม่ ซึ่งนางเยลเลนตอบว่า เธอคิดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับ 2% ภายในสิ้นปีนี้ หรือภายในต้นปี 2565 พร้อมกับกล่าวว่า มาตรวัดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อส่วนใหญ่ในช่วงหลังจากปี 2565 นั้น แสดงให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับใกล้ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายของเฟด
การแสดงความเห็นของนางเยลเลนสอดคล้องกับที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเมื่อไม่นานมานี้ เกิดจากภาวะติดขัดด้านอุปทานและปัญหาการขาดแคลนอุปทานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของการชัตดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19
นางเยลเลนคาดว่า ปัญหาด้านอุปทานจะลดลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และแรงขับเคลื่อนในระยะยาวที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปีนั้น จะคลี่คลายลงด้วยตัวเอง และจะทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงในที่สุด
นอกจากนี้ วุฒิสมาชิกเคนเนดีได้กดดันให้นางเยลเลนแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากรายงาน dot-plot ในการประชุมล่าสุดของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2565
"คุณคิดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนั้นหรือไม่ การที่พวกเขาจะปรับขึ้นดอกเบี้ยก็เพราะความกังวลเรื่องเงินเฟ้อใช่หรือไม่" วุฒิสมาชิกเคนนาดีตั้งคำถาม
นางเยลเลนซึ่งเป็นอดีตประธานเฟดตอบว่า "ดิฉันไม่คิดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลานั้น กรรมการเฟดหลายคนเขียนตัวเลขคาดการณ์ส่วนตัวลงไปในรายงานและถูกนำออกไปเผยแพร่ ซึ่งพวกเขามองว่าน่าจะเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้"
ในการแถลงครั้งนี้ นางเยลเลนแสดงท่าทีอึดอัดต่อการถูกบีบให้ต้องแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟด เนื่องจากโดยปกติแล้วควรเป็นหน้าที่ของเฟดที่จะดำเนินนโยบายการเงินโดยไม่มีการแทรกแซงจากกระทรวงคลัง
"ดิฉันไม่ต้องการแสดงความเห็นเกี่ยวกับเฟด แต่ดิฉันขอพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่า นั่นไม่ใช่การประกาศแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในนามของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC)" นางเยลเลนกล่าว