เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงอินเดีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย แต่ในขณะเดียวกัน ก็ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีน แอฟริกาใต้ และประเทศละตินอเมริกาส่วนใหญ่
S&P ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินเดียลงจาก 11% เหลือ 9.5% โดยระบุว่า อินเดียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งปรับลดตัวเลขเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ลงจาก 7.9% เหลือ 6% และมาเลเซียลงจาก 6.2% เหลือ 4.1%
ในทางกลับกัน S&P ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนจาก 8% สู่ 8.3%, บราซิลจาก 3.4% สู่ 4.7%, เม็กซิโกจาก 4.9% สู่ 5.8%, แอฟริกาใต้จาก 3.6% สู่ 4.2%, โปแลนด์จาก 3.4% สู่ 4.5% และรัสเซียจาก 3.3% สู่ 3.7%
ทั้งนี้ ตัวเลขคาดการณ์เหล่านี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของ S&P
นักเศรษฐศาสตร์ของ S&P ระบุในรายงานว่า ปัจจัยเสี่ยงสูงสุดที่ระบบเศรษฐกิจในตลาดเกิดใหม่ (EM) ต้องเผชิญในขณะนี้คือแผนระดมฉีดวัคซีนที่เป็นไปอย่างล่าช้ากว่าที่คาด พร้อมกับเสริมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคจะบรรเทาความรุนแรงลงก็ต่อเมื่อสามารถระดมฉีดวัคซีนจนถึงระดับเดียวกับการมีภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว
ขณะนี้ในบรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่ของภูมิภาคเอเชียนั้น มีการระดมฉีดวัคซีนเพียง 0.2 โดสต่อ 100 คนต่อวัน ซึ่ง S&P คาดว่า หากอัตราการฉีดวัคซีนยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป จะต้องใช้เวลาอีก 23 เดือนจนกว่า 70% ของประชากรในประเทศเหล่านี้จะได้รับวัคซีนครบโดส
นอกจากนี้ S&P ยังระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงประการที่สองคือกรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตแข็งแกร่งและเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น จนธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และทำให้หนี้สินต่างๆ ที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย