กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่า เศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียกำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดย IMF คาดว่า เศรษฐกิจในภาคส่วนนอกเหนือจากน้ำมัน (Non-oil) ของซาอุดีอาระเบียจะขยายตัว 4.3% ในปีนี้ ขณะที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) โดยรวมจะขยายตัวที่ระดับ 2.4%
แถลงการณ์ของ IMF ระบุคาดการณ์ตัวเลข GDP ของภาคอุตสาหกรรมน้ำมันซาอุดีอาระเบียว่า จะหดตัวลง 0.4% เนื่องจากคาดว่าระดับการผลิตจะเป็นไปตามข้อตกลงของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) รวมถึงรัสเซียและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
IMF คาดการณ์ว่า การลงทุนของกองทุน Public Investment Fund (PIF) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย จะชดเชยภาระด้านการคลังที่ถ่วงเศรษฐกิจได้ โดยการลงทุนของกองทุน PIF เป็นหัวใจสำคัญของโครงการ Vision 2030 เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียให้พึ่งพาน้ำมันน้อยลง
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก จึงได้รับผลกระทบสองด้านจากทั้งราคาน้ำมันโลกที่ดิ่งลงอย่างหนักในปี 2563 และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียนั้นส่งสัญญาณฟื้นตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2563
คณะกรรมการบริหารของ IMF เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังความเสี่ยงทางการเงิน รวมถึงการพัฒนากรอบการทำงานที่แข็งแกร่งเพื่อบริหารสินทรัพย์และความเสี่ยงของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงบทบาทของกองทุน PIF และการลงทุนร่วมระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ที่มีความสำคัญมากขึ้นต่อเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย
นอกจากนี้ คณะกรรมการฯยังมีความเห็นว่า การผูกค่าเงินริยาลไว้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นเป็นผลดีต่อซาอุดีอาระเบียตามโครงสร้างทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน