โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2564 ซึ่งรวมถึงประเทศไทย เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดในภูมิภาคแห่งนี้ โดยเฉพาะไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งแพร่ระบาดอย่างหนักในอินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ลงสู่ระดับ 1.4% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.1% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจอินโดนีเซียลงสู่ระดับ 3.4% จากระดับ 5%, ลดคาดการณ์เศรษฐกิจมาเลเซียลงสู่ระดับ 4.9% จากระดับ 6.2%, ลดคาดการณ์เศรษฐกิจสิงคโปร์ลงสู่ระดับ 6.8% จากระดับ 7.1% และปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ลงสู่ระดับ 4.4% จากระดับ 5.8%
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ส่งผลให้ประเทศไทยและอินโดนีเซียเพิ่มความเข้มงวดในการใช้มาตรการควบคุมการระบาด ขณะที่มาเลเซียขยายเวลาการใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศออกไปอย่างไม่มีกำหนด จากเดิมซึ่งกำหนดสิ้นสุดลงในวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางด้านฟิลิปปินส์ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะสามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดซึ่งรวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมในปีนี้
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นและการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ในระดับที่รุนแรงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นอย่างเร็ว แต่การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 กลับล้าหลังประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐและอังกฤษ
โกลด์แมน แซคส์ระบุว่า สิงคโปร์มีการฉีดวัคซีนในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยข้อมูลจาก Our World in Data ระบุว่า มีประชาชนในสิงคโปร์กว่า 41% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ขณะที่ประชาชนในมาเลเซีย 12.4% ได้รับวัคซีนครบโดส และประชาชนในอินโดนีเซีย 5.7% ได้รับวัคซีนครบโดส ส่วนประชาชนในไทยและฟิลิปปินส์ที่ได้รับวัคซีนครบโดสมีไม่ถึง 5%