สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงกว่า 1.3% ในช่วงเช้านี้ หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับเพิ่มกำลังการ ผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.2564
ณ เวลา 07.48 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 94 เซนต์ หรือ 1.31% แตะที่ 70.87 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้จัดการประชุมทางไกลในช่วงเย็นวานนี้ (18 ก.ค.) โดยที่ประชุมมีมติปรับเพิ่มกำลังการ ผลิตน้ำมันรวม 2 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่เดือนส.ค.ไปจนถึงเดือนธ.ค.2564 เพื่อรองรับความต้องการน้ำมันที่ปรับตัวสูง ขึ้น
แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุว่า ที่ประชุมได้ตกลงที่จะเพิ่มโควต้าการผลิตของสมาชิกบางประเทศตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยสมาชิกเหล่านี้รวมถึงสหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ (UAE), ซาอุดีอาระเบีย, รัสเซีย คูเวต และอิรัก
มติการปรับเพิ่มโควต้าในครั้งนี้จะทำให้เกณฑ์การผลิตน้ำมันขั้นต่ำของ UAE ตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 3.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 3.168 ล้าน บาร์เรล/วัน ขณะที่เกณฑ์การผลิตขั้นต่ำของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะเพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบัน 11 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนเกณฑ์การผลิตขั้นต่ำของอิรัก และคูเวตจะเพิ่มขึ้น 150,000 บาร์เรล/วัน
-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ ขณะเดียวนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของ บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และเน็ตฟลิกซ์
ณ. เวลา 07.56 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 210 จุด หรือ -0.61% แตะที่ 34,354 จุด
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ผู้บริโภคในสหรัฐได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคร่วงลงสู่ระดับ 80.8 ในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. จากระดับ 85.5 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 86.5
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การ ว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
-- สิงคโปร์ได้เริ่มใช้มาตรการป้องกันโควิด-19 ครั้งใหม่ โดยอนุญาตให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนจากไฟเซอร์-บิออนเทค หรือโมเดอร์นาครบทั้ง 2 โดส หรือหายป่วยจากโควิด-19 แล้วสามารถรับประทานอาหารในร้านเป็นกลุ่มได้ ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการแถลงข่าวว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้เฉพาะบุคคลที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว หรือผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 สามารถรับประทานอาหารใน ร้านร่วมกันสูงสุด 5 คนโดยไม่ต้องตรวจโควิด-19 โดยกฎใหม่ได้เริ่มใช้ในวันนี้เป็นวันแรก
ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะต้องเข้ารับการตรวจ Antigen Rapid Test หากต้องการรับประทานอาหารเป็นกลุ่ม 5 คน ซึ่งโดยปกติแล้วร้านอาหารจะกำหนดให้รับ ประทานร่วมกันได้สูงสุด 2 คนเท่านั้น
-- หน่วยงานด้านสาธารณสุขของฮ่องกงรายงานว่า นับจนถึงเมื่อวานนี้ ชาวฮ่องกงฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบสองโดสแล้ว 2.01 ล้านราย ขณะที่มีชาวฮ่องกง ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสแล้ว 2.8 ล้านราย โดยฮ่องกงใช้วัคซีนของบริษัทบิออนเทคและซิโนแวค
ตัวเลขชาวฮ่องกงที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสนั้นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวภายในเวลาเพียง 7 สัปดาห์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการแจกของรางวัลเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกไป ฉีดวัคซีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้การฉีดวัคซีนเป็นไปอย่างล่าช้าเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ เพราะฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไม่มากนัก และประชาชนบางส่วนไม่เชื่อมั่นกับการบริหาร ของรัฐบาล ถึงขั้นที่รัฐบาลฮ่องกงต้องมองหาช่องทางบริจาควัคซีนให้ที่อื่นก่อนวัคซีนเหล่านั้นหมดอายุ
ตัวเลขล่าสุดจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า ชาวฮ่องกงฉีดวัคซีนครบสองโดสไปแล้ว 26.7% เมื่อเทียบกับสิงคโปร์ที่ฉีดครบสองโดสไปแล้ว 46.9%
-- เหตุน้ำท่วมทางภาคตะวันตกของเยอรมนีมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 157 รายแล้ว นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดของเยอรมนีในรอบเกือบ 6 ทศวรรษ โดยนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยกให้เหตุการณ์ดังกล่าว "น่าหวาดกลัว" อย่างยิ่ง พร้อมให้คำมั่นในการมอบความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ภาวะน้ำท่วมยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางส่วนในเบลเยียมและเนเธอร์แลนด์ด้วย โดยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในยุโรปอยู่ที่ 188 ราย
นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังได้ใช้โอกาสนี้ในการเรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ รีบหาทางจัดการกับผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนด้วย โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้ ระบุมานานแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะทำให้เกิดภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วม
เยอรมนียังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหาย โดยเมื่อวานนี้พื้นที่ส่วนหนึ่งของรัฐบาวาเรียทางตอนใต้ของเยอรมนีถูกน้ำท่วมหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย ขณะที่ หน่วยงานในพื้นที่เตรียมการรับมือไม่ทันเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเลวร้ายลงเร็วมาก
-- เฟซบุ๊กออกแถลงการณ์ตอบโต้หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนกล่าวว่า เฟซบุ๊กกำลัง "คร่าชีวิตคน" ด้วยการปล่อยให้มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เผยแพร่ในแพลตฟอร์ม โดยเฟซบุ๊กโต้แย้งว่า ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น
กาย โรเซน รองประธานของเฟซบุ๊กโพสต์ข้อความในบล็อกของบริษัท โดยเปิดเผยว่า "ข้อมูลระบุว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐ 85% ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหรือต้องการได้ รับการฉีดวัคซีน ขณะที่ปธน.ไบเดนตั้งเป้าหมายไว้ว่า ชาวอเมริกัน 70% ต้องได้รับการฉีดวัคซีนภายในวันที่ 4 ก.ค. เฟซบุ๊กจึงไม่ใช่สาเหตุของความล้มเหลวดังกล่าว"
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ก.ค.) ปธน.ไบเดนออกแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาว โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นข้อมูลเท็จและสิ่งที่รัฐบาลต้องการสื่อสารกับบริษัทโซเชีย ลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก ปธน.ไบเดนก็ได้กล่าวว่า "พวกเขากำลังคร่าชีวิตคน ขณะนี้การแพร่ระบาดเกิดขึ้นเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน และพวกเขากำลังคร่าชีวิตคน"
-- บรรดานักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการของรัฐบาลอังกฤษที่จะผ่อนคลายข้อจำกัดในการควบคุมโรคโควิด-19 เกือบทั้งหมดที่เหลืออยู่ในวันจันทร์ที่ จะถึงนี้ โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณและเป็นอันตรายต่อทั้งโลก
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำและที่ปรึกษารัฐบาลจากทั่วโลกซึ่งมารวมตัวกันในการประชุมสุดยอดเสมือนจริงเมื่อวันศุกร์ (16 ก.ค.) เตือนว่า สหราชอาณาจักรกำลังจะเผชิญ กับหายนะด้วยการยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ (19 ก.ค.)
การประชุมดังกล่าวมีขึ้น เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์มากกว่า 1,200 คนสนับสนุนจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงวารสารการแพทย์เดอะ แลนเซต ซึ่งระบุว่า แผนการของนายก รัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของสหราชอาณาจักรนั้นเป็นอันตรายและเร็วเกินไป
ทั้งนี้ อังกฤษจะยกเลิกข้อจำกัดส่วนใหญ่ที่เหลืออยู่ รวมทั้งถึงการบังคับสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคมในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งนายจอห์นสันระบุ ว่า จะเป็นการดำเนินการที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจ โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงิน เฟ้อเดือนมิ.ย.และการค้าเดือนมิ.ย., จีนเปิดเผยการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย. และสหรัฐเปิดเผยการเริ่มสร้างบ้านและ การอนุญาตก่อสร้างเดือนมิ.ย.