ทางการมาเลเซียได้เข้ายึดแท่นขุดบิตคอยน์จำนวน 1,069 เครื่อง ก่อนที่จะขับรถจักรไอน้ำเพื่อบดทำลายอุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งสำนักข่าวดายัก เดลี่ของท้องถิ่นได้เผยแพร่ภาพเหตุการณ์จนกลายเป็นคลิปที่โด่งดังในโซเชียลมีเดีย
นายฮาเคมัล ฮาวารี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การปราบปรามมีขึ้นหลังจากตรวจพบว่านักขุดบิตคอยน์แอบลักลอบถ่ายโอนไฟฟ้าจากบริษัทซาราวัก เอเนอร์จี (Sarawak Energy) มาใช้อย่างผิดกฎหมาย รวมมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 2 ล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่ของเกาะบอร์เนียวได้ยึดแท่นขุดบิตคอยน์ถึง 6 ครั้งระหว่างเดือนก.พ.-เม.ย.ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจทำลายอุปกรณ์ดังกล่าวไปเป็นมูลค่าราว 1.26 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจของมาเลเซียเลือกที่จะทำลายอุปกรณ์ขุดเหรียญมากกว่านำไปขาย ซึ่งสอดคล้องกับคำสั่งศาลของประเทศ ขณะที่ประเทศอื่นๆ เช่น จีน ได้เลือกใช้วิธีการอื่น โดยมีรายงานว่ามีการประมูลแท่นขุดเหรียญที่ยึดมาด้วย
นายฮาวารีกล่าวว่า การที่นักขุดบิตคอยน์ลักลอบนำไฟฟ้ามาใช้นั้น ทำให้มีบ้านเรือนไฟไหม้เสียหาย 3 หลังในเมือง ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองมิริระบุว่า ขณะนี้ไม่มีเหมืองบิตคอยน์ที่เปิดดำเนินการอยู่
แม้การทำเหมืองคริปโตจะไม่ผิดกฎหมายมาเลเซีย แต่ก็มีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้พลังงาน โดยมาตรา 37 ของพระราชบัญญัติการไฟฟ้าของมาเลเซีย ได้สั่งลงโทษผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับสายไฟด้วยค่าปรับสูงถึง 100,000 ริงกิตมาเลเซีย (23,700 ดอลลาร์) และจำคุก 5 ปี