นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สว่า การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคชาวสหรัฐ
"ดิฉันมองว่ามาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไม่ได้ทำในลักษณะที่รอบคอบมากนัก ภาษีนำเข้าหรือภาษีศุลกากรเป็นภาษีที่ผู้บริโภคต้องรับผิดชอบ สำหรับดิฉัน ในบางกรณีนั้นก็ดูเหมือนว่าเรากำลังทำร้ายผู้บริโภคชาวอเมริกัน และประเภทของข้อตกลงที่ฝ่ายบริหารชุดก่อนได้เจรจาไว้นั้นไม่ได้กล่าวถึงปัญหาพื้นฐานที่เรามีกับจีนในหลาย ๆ ด้าน" นางเยเลนกล่าว
ข้อตกลงการค้าที่ลงนามระหว่างฝ่ายบริหารของอดีตปธน.ทรัมป์และจีนในเดือนมกราคม 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อยุติสงครามการค้า หลังจากที่สงครามการค้าได้นำไปสู่การเก็บภาษีศุลกากรสินค้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี แม้ว่าการทำข้อตกลงการค้าจะช่วยให้สหรัฐและจีนสงบศึกการค้าได้ชั่วคราว แต่ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศยังถดถอยอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็น ฮ่องกง ไต้หวัน สิทธิมนุษยชน และต้นตอการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ รัฐบาลของปธน.โจ ไบเดนกำลังตัดสินใจว่าควรจะรักษาข้อตกลงไว้ หรือยกเลิก หรือหาข้อตกลงทดแทนใหม่