บริษัทเทสลา อิงค์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ 1.45 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 98 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 1.196 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.130 หมื่นล้านดอลลาร์
เทสลาระบุว่า บริษัทมีกำไรสุทธิเมื่อคำนวนตามหลักการบัญชีทั่วไป (GAAP) อยู่ที่ 1.14 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กำไรสุทธิของเทสลาพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าจากกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 104 ล้านดอลลาร์
ส่วนรายได้จากธุรกิจยานยนต์อยู่ที่ 1.021 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้มีรายได้ 354 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 3.5% ที่มาจากการขายเครดิตด้านกฎระเบียบ (Regulatory Credit) ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ
ทั้งนี้ Regulatory Credit เป็นข้อกำหนดของทางสหรัฐที่ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาตามสัดส่วนที่กำหนดของรถยนต์ที่ผลิตทั้งหมด และหากไม่สามารถทำตามที่กำหนดได้ ก็จะโดนปรับเป็นจำนวนเงินมหาศาล ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์หลายรายจึงต้องขอซื้อเครดิตจากทางเทสลา
นอกจากนี้ เทสลาได้รายงานการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 201,250 คันในไตรมาส 2 และมียอดการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 206,421 คัน
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนราคาหุ้นเทสลาพุ่งขึ้นกว่า 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้านี้