ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่น่าผิดหวังในเดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดของบริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,792.67 จุด ลดลง 323.73 จุด หรือ -0.92%
-- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังปรับปรุงแผนที่จะกำหนดให้ชาวต่างชาติทุกคนที่จะเดินทางเข้าสหรัฐต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกเลิกข้อจำกัดด้านการเดินทาง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทำเนียบขาวได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เดินทางเข้าสหรัฐ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ทำเนียบขาวต้องการที่จะกลับมาเปิดการเดินทางอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นธุรกิจสายการบินและการท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวก็ยังไม่พร้อมที่จะยกเลิกข้อจำกัดในทันที เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่สามารถแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก
WHO ระบุว่า นานาชาติควรระงับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น อย่างน้อยเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อให้ WHO บรรลุเป้าในการฉีดวัคซีนให้แก่ประชากร 10% ของทุกประเทศภายในสิ้นเดือนก.ย.
-- ทำเนียบขาวแถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า รัฐบาลสหรัฐยังคงพร้อมที่จะดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ประชาชน หากมีความจำเป็น แม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติระงับโครงการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของการฉีดวัคซีนทั่วโลก
"นี่เป็นทางเลือกที่ผิด โดยสหรัฐสามารถดำเนินการได้ทั้งสองอย่าง ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติในสหรัฐ และสหรัฐยังสามารถบริจาควัคซีนส่วนเกินให้แก่ชาติอื่นๆ" นางเจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวกล่าว
-- นายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อของเฟดภายในปลายปีหน้า ซึ่งจะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566
"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจจะบรรลุเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในปลายปีหน้า และการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติในปี 2566 จะสอดคล้องกับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ยแบบยืดหยุ่นของเฟด" นายแคลริดากล่าว
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 543,000 บาร์เรล
-- แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียประกาศขึ้นราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ในเดือนก.ย.สำหรับน้ำมันดิบทุกประเภทที่มีการจำหน่ายไปยังภูมิภาคเอเชีย
การปรับขึ้นราคา OSP ดังกล่าว เป็นการดำเนินการของซาอุดีอาระเบียเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ราคา OSP สำหรับน้ำมันดิบ Arab Light เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ สู่ระดับ 3 ดอลลาร์/บาร์เรล เหนือระดับราคาเฉลี่ยของ Platts Dubai และ DME Oman
-- นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เขาจะไม่ลาออกจากตำแหน่ง แม้ว่าสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนหนึ่งประกาศถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล
นายมูห์ยิดดินยืนยันว่า เขาจะให้รัฐสภาเป็นผู้ตัดสินเกี่ยวกับอนาคตของเขาในการลงมติในญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนหน้า โดยรัฐสภามาเลเซียจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 6 ก.ย.
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนมิ.ย.