ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันนี้
-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดย BoE มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ BoE ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8.95 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
-- โมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาของสหรัฐ เปิดเผยว่า บริษัทมียอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 4,200 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 3 เดือนระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย. หรือราว 140,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 ในไตรมาส 2 ของโมเดอร์นายังคงต่ำกว่ายอดขายของไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมียอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 สูงถึง 7,800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 หรือราว 260,000 ล้านบาท และบริษัทได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ยอดขายวัคซีนในปีนี้สู่ระดับ 33,500 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 26,000 ล้านดอลลาร์
-- บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยว่า วัคซีนของบริษัทยังคงมีประสิทธิภาพถึง 93% ในการต้านไวรัสโควิด-19 ภายในเวลา 6 เดือนหลังจากที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
ตัวเลขประสิทธิภาพดังกล่าวสูงกว่าวัคซีนของไฟเซอร์และบิออนเทค ซึ่งระบุว่าประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงราว 6% ทุกๆ 2 เดือน และจะอยู่ที่ราว 84% ในเวลา 6 เดือนหลังมีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
นอกจากนี้ วัคซีนของโมเดอร์นาสามารถให้การป้องกัน 98% ต่อการเกิดอาการของโรคที่รุนแรง และมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19
โมเดอร์นายังเปิดเผยว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นาครบ 3 โดสจะมีภูมิต้านทานไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์จำนวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ แกมมา เบตา และเดลตา
โมเดอร์นาระบุว่า การฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ยังคงมีความจำเป็นก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูหนาว เนื่องจากระดับแอนติบอดีจะลดลงเมื่อถึงเวลานั้น
-- นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้การอนุมัติการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้แก่ชาวอเมริกันที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ
นายแพทย์เฟาชีกล่าวว่า ร่างกายของผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งได้แก่ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรค HIV รวมทั้งผู้ที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ โดยทั่วไปจะไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานที่เพียงพอ แม้ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 2 โดส
ทางด้านนายแพทย์สก็อตต์ ก็อตลิบ อดีตประธานสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า เขาเชื่อว่าผู้ที่สูงอายุและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะได้รับอนุญาตให้มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ภายในเดือนก.ย.หรือต.ค.
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 201,362,012 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,275,777 ราย
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 35,764 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,568,331 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
-- กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 20,596 ราย ซึ่งเป็นการทำสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1,203,706 ราย
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 385,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 6.7% สู่ระดับ 7.57 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.41 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.391 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 1.459 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดการรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานจะพุ่งขึ้น 926,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่เพิ่มขึ้น 850,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ สหรัฐจะรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. เวลา 21.00 น.