กระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า การผลิตไวน์ในประเทศอาจปรับตัวลงมากกว่า 30% ในปีนี้ หรือแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปี หลังจากไร่องุ่นได้รับผลกระทบจากน้ำค้างแข็งในฤดูใบไม้ผลิและฝนที่ตกลงมาในฤดูร้อน
สภาพอากาศที่สร้างผลเสียต่อการเก็บเกี่ยวองุ่นอาจทำให้ภาคธุรกิจไวน์ของฝรั่งเศสต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้น หลังจากที่อุตสาหกรรมไวน์ได้รับผลกระทบจากความต้องการสินค้าที่ลดลงในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 และการที่ฝรั่งเศสถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ
ผู้ผลิตแชมเปญเตือนว่า ศักยภาพการเก็บเกี่ยววัตถุดิบของพวกเขาลดลงประมาณครึ่งหนึ่ง เนื่องจากภาวะน้ำค้างแข็งในฤดูใบไม้ผลิที่รุนแรง ตามด้วยพายุฝนฤดูร้อนที่พัดผ่านซึ่งทำให้เกิดเชื้อรา
กระทรวงเกษตรของฝรั่งเศสคาดการณ์ว่า การผลิตไวน์ในปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 32.6-35.6 ล้านเฮกโตลิตร ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมาถึง 24-30% โดยเฮกโตลิตรเท่ากับ 100 ลิตร หรือ 133 ขวดไวน์มาตรฐาน
รายงานระบุว่า "การผลิตไวน์ในปี 2564 คาดว่าจะอ่อนแอเป็นประวัติการณ์ โดยต่ำกว่าระดับในปี 2534 และ 2560 ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำค้างแข็งรุนแรงในฤดูใบไม้ผลิด้วย" กระทรวงระบุในรายงาน โดยการผลิตในภาพรวมจะต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2513
ในขณะเดียวกัน เชื้อราที่เกิดจากสภาพอากาศชื้นในฤดูร้อนได้ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ อาทิ แคว้นช็องปาญ แคว้นอัลซาส และเมืองโบโฌเลส์