ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้แสดงท่าทีพอใจที่วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวน 19 คนออกเสียงสนับสนุนร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมกับกล่าวว่า การที่ร่างกฎหมายดังกล่าวสามารถผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ จะทำให้ทุกฝ่ายมีความหวังว่าประเด็นต่างๆ จะสามารถผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี
วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 69-30 เสียง ผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อคืนวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างงานครั้งใหญ่ให้แก่ชาวอเมริกัน โดยโครงการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจะรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ โครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ
วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครตทั้ง 50 คนต่างลงคะแนนเสียงเห็นชอบต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันจำนวน 19 คนได้ออกเสียงสนับสนุนเช่นกัน สำหรับขั้นตอนต่อไป วุฒิสภาจะส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
"ผมแทบไม่เชื่อสายตาว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น การที่วุฒิสมาชิกของทั้งสองพรรคสามารถตกลงกันได้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันยังคงมีอยู่ในสังคมการเมืองอเมริกา และยังเป็นการพิสูจน์ว่า เรายังสามารถร่วมมือกันทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาวอเมริกัน" ปธน.ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนมองว่า การประนีประนอมถือเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนประชาธิปไตย โดยเขากล่าวว่า "วันนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประชาธิปไตยยังคงเป็นระบอบที่มีประสิทธิภาพ และเรายังมีงานอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ"
ข่าววุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ อีกทั้งยังช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัวขึ้นด้วย เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า การบังคับใช้กฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และจะช่วยสร้างงานจำนวนมากให้กับชาวอเมริกัน