ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
-- นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอนเซิลกล่าวว่า นักลงทุนหมุนเวียนแรงซื้อเข้าสู่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลธ์แคร์ซึ่งเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มสดใสในระยะยาว จากก่อนหน้านี้ที่เข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มพลังงาน ซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ หากสภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์
-- สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) กำลังพิจารณาข้อเสนอในการสร้างศูนย์ภารกิจที่มุ่งเน้นจีนโดยเฉพาะ เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจีนให้มากขึ้น
-- คาดตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดซบเซา แม้ดาวโจนส์ และ S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาและการยกระดับมาตรการกำกับดูแลจากจีนทำให้นักลงทุนมีความกังวล
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 205,747,424 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,341,663 ราย
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 24,709 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 3,774,155 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
-- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 12,439 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศอยู่ที่ 1,700,363 ราย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากอินโดนีเซีย
-- รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวคเพิ่มอีก โดยเป็นการสั่งซื้อผ่านบริษัท Pharmaniaga เพื่อให้มาเลเซียยังคงรักษาอัตราการฉีดวัคซีนให้เร็วต่อไปได้
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียเคยสั่งซื้อวัคซีนของบริษัทซิโนแวคจากบริษัท Pharmaniaga ไปแล้ว 12.4 ล้านโดส และสั่งเพิ่มอีก 2 ล้านโดสในเดือนก.ค. และเมื่อรวมยอดสั่งซื้อรอบล่าสุดแล้ว เท่ากับว่ามาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีนของบริษัทซิโนแวครวมกัน 20.4 ล้านโดส
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 375,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวแม้มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6%
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค. หลังจากที่ขยายตัว 7.3% ในเดือนมิ.ย. แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และพุ่งขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี
นักวิเคราะห์จากบริษัท E*TRADE Financial มองว่า ข้อมูลดัชนี PPI เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด เนื่องจากการพุ่งขึ้นของดัชนี PPI ในเดือนก.ค.เป็นผลมาจากภาวะติดขัดด้านอุปทาน ซึ่งก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อแค่ในระยะสั้น และเชื่อว่าจะไม่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐจะมีการรายงานราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 21.00 น.