รัฐสภาและคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเปิดเผยแผนแม่บทระยะเวลา 5 ปีเพื่อปรับปรุงกฎระเบียบในหลายภาคส่วน โดยได้กำหนดกรอบการดำเนินงานเพื่อควบคุมอุตสาหกรรมที่สำคัญหลายประเภท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนในตลาดการเงินวิตกกังวล
แผนแม่บทดังกล่าวระบุว่า ทางการจีนจะดำเนินการอย่างจริงจังตามข้อกฎหมายในด้านต่างๆ ซึ่งรวมถึงความมั่นคงแห่งชาติ เทคโนโลยี และการผูกขาด พร้อมระบุว่า ทางการจีนจะนำข้อกฎหมายมาบังคับใช้กับธุรกิจในภาคส่วนต่างๆเป็นวงกว้าง ตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหารและยา ไปจนถึงบิ๊กดาตา และปัญญาประดิษฐ์ (AI)
"แนวคิดที่ว่าประชาชนต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นนั้นได้ผลักดันให้เกิดข้อกำหนดใหม่ที่สูงขึ้นเพื่อสร้างรัฐบาลภายใต้หลักนิติธรรม โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์โดยรวม มุมมองในระยะยาว การชดเชยข้อบกพร่อง การผลักดันให้คืบหน้า และการส่งเสริมการสร้างรัฐบาลภายใต้ข้อกฎหมายเพื่อให้จีนก้าวสู่ระดับใหม่ในยุคใหม่"
สำหรับสาระสำคัญในแผนแม่บทของจีนนั้นระบุว่า
- จีนจะส่งเสริมการดำเนินการตามข้อกฎหมายในภาคส่วนต่างๆ ซึ่งได้แก่ ความมั่นคงแห่งชาติ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี สาธารณสุข วัฒนธรรมและการศึกษา ศาสนา ชาติพันธุ์ ความปลอดภัยทางชีวภาพ สภาพแวดล้อมในระบบนิเวศน์ การผลิตที่ปลอดภัย ความมั่นคงด้านแรงงาน การบริหารจัดการพื้นที่เขตเมือง การขนส่ง การบริการด้านการเงิน การศึกษา และการฝึกอบรม
- จีนจะสร้างความเชื่อมั่นในด้านการพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจใหม่ โดยใช้กฎหมายและระบบธรรมาภิบาลที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล การเงินทางระบบอินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ บิ๊กดาตา และคลาวด์คอมพิวติ้ง
- จีนจะยกระดับการตัดสินใจให้มีความเด็ดเดี่ยวมากขึ้น โดยเมื่อคณะบริหารของรัฐบาลจำเป็นต้องมีการตัดสินใจ ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามข้อต่อรอง และไม่มีการยกเว้นโดยปราศจากการพิจารณาตามกระบวนการทางกฎหมาย
- จีนจะใช้อินเทอร์เน็ตและบิ๊กดาตาในการบังคับใช้กฎหมาย โดยจะสร้างระบบอินเทอร์เน็ต "Internet + supervision" เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในการกำกับดูแลทั่วประเทศ นอกจากนี้ จีนจะดำเนินการรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มกำกับดูแลภายในสิ้นปี 2565