รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2564 ลงจาก 6-7% สู่ระดับ 4-5% เนื่องจากการกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้งในมหานครมะนิลาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
คณะกรรมการประสานงานด้านงบประมาณเพื่อการพัฒนา (DBCC) ระบุในแถลงการณ์ว่า "ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 การปรับสมดุลอย่างระมัดระวังระหว่างความเสี่ยงจากโควิด-19 และความเสี่ยงอื่นๆ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเราเติบโตขึ้นสู่ระดับ 11.8% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้"
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาทั่วโลก ทำให้ DBCC ต้องปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังลง เพื่อสะท้อนถึงการใช้ข้อจำกัดเพิ่มเติมของรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต่อการควบคุมการแพร่ระบาด
DBCC เสริมว่า "กลยุทธ์ของเรายังคงเป็นการจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวังด้วยการใช้มาตรการกักตัว ขณะที่อนุญาตให้ประชาชนจำนวนมากออกไปทำงานได้ และเราจะใช้ช่วงเวลานี้เพื่อเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ต่อไป"
ขณะเดียวกัน DBCC ยังคงเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจสำหรับปี 2565 ไว้ที่ 7-9% รวมถึงปี 2566 และ 2567 ที่ 6-7%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจฟิลิปปินส์หดตัวลง 9.5% ในปี 2563 ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2489 อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนเกือบ 28 ล้านคนแล้วนับตั้งแต่เริ่มการฉีดวัคซีนในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีประชาชนมากกว่า 12.6 ล้านคนได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และรัฐบาลตั้งใจจะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 70 ล้านคนภายในปีนี้