แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้อนุมัติการขอใบอนุญาตมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ที่ต้องการซื้อชิปเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจชิปสำหรับรถยนต์ แม้ว่าขณะนี้หัวเว่ยซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีนยังคงอยู่ในรายชื่อบริษัทที่ถูกสหรัฐขึ้นบัญชีดำก็ตาม
ที่ผ่านมานั้น หัวเว่ยประสบกับความยากลำบากหลังจากคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งที่เข้มงวดในการขายชิปและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในธุรกิจสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เครือข่ายให้กับหัวเว่ย ขณะที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ได้สานต่อมาตรการดังกล่าวด้วยการปฏิเสธใบอนุญาตในการขายชิปให้กับหัวเว่ยเพื่อใช้ในการผลิตอุปกรณ์ 5G
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่สัปดาห์มานี้ แหล่งข่าวได้เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สหรัฐได้อนุมัติใบอนุญาตซึ่งจะเปิดทางให้ซัพพลายเออร์สามารถขายชิปให้กับหัวเว่ย ซึ่งชิปเหล่านี้เป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการผลิตอุปกรณ์ในรถยนต์เช่นจอวิดีโอ และเซนเซอร์ โดยการอนุมัติดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่หัวเว่ยได้ปรับเปลี่ยนแนวทางธุรกิจด้วยการหันไปมุ่งเน้นสินค้าที่จะไม่เสี่ยงต่อการถูกแบนจากสหรัฐ
โดยทั่วไปแล้ว ชิปสำหรับรถยนต์ถูกมองว่าไม่ใช่สินค้าที่มีมูลค่าสูง และไม่ยากที่จะได้รับอนุมัติจากรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับการอนุมัติใบอนุญาตกล่าวว่า รัฐบาลหรัฐกำลังให้การอนุมัติชิปสำหรับรถยนต์ซึ่งอาจจะมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยี 5G
ทั้งนี้ โฆษกของหัวเว่ยปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ ต่อรายงานข่าวเกี่ยวกับใบอนุญาตดังกล่าว แต่ระบุว่า "เราวางสถานะตัวเราเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ใหม่สำหรับรถยนต์ที่มีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ และเป้าหมายของเราคือการช่วยให้กลุ่มผู้ผลิตสามารถผลิตรถยนต์ที่ดีขึ้น"