ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,312.53 จุด ลดลง 48.20 จุด หรือ -0.14%
-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 2/2564 เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัว 0.7%
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตัวเลข GDP ของเกาหลีใต้ขยายตัวได้ดีขึ้นนั้น มาจากการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนและการลงทุนด้านสาธารณูปโภค โดยการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชนพุ่งขึ้น 3.6% ในไตรมาส 2 และการลงทุนด้านสาธารณูปโภคปรับตัวขึ้น 1.1%
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยโอเปกพลัสจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน
"ถึงแม้ว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงสร้างความไม่แน่นอน แต่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดได้แข็งแกร่งขึ้น ขณะที่สต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" แถลงการณ์ของโอเปกพลัสระบุ
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่า WHO กำลังจับตาไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า "mu" หรือสายพันธุ์ B.1.621
WHO ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวมีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง ทำให้มีความสามารถในการหลบหลีกภูมิต้านทานของร่างกายที่สร้างขึ้นหลังการฉีดวัคซีน หรือหลังการติดเชื้อโควิด-19
-- สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.9 ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 58.6 หลังจากแตะระดับ 59.5 ในเดือนก.ค.
ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ท่ามกลางการขาดแคลนวัตถุดิบและแรงงาน
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวลงสู่ระดับ 61.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 62.8 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14 ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มในช่วง 12 เดือนข้างหน้า
-- บริษัทไฟเซอร์ อิงค์เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองยา PF-07321332 ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสโควิด-19 ในรูปของยาเม็ดในผู้ป่วยโควิดที่แสดงอาการ แต่ไม่ได้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ไฟเซอร์ได้ทำการทดลองยาดังกล่าวกับผู้ป่วยจำนวน 1,140 ราย โดยมีการให้ยา Ritonavir ร่วมในการทดลอง ซึ่งโครงการทดลองกำลังอยู่ในระยะที่ 2 และระยะที่ 3
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 374,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 613,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี ตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในเดือนส.ค.ยังคงสูงกว่าเดือนก.ค. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 326,000 ตำแหน่ง
-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ปฏิเสธที่จะรับมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทซิโนแวค ไบโอเทคของจีน จำนวน 3 ล้านโดส
ทั้งนี้ องค์การยูนิเซฟได้จัดส่งวัคซีนล็อตดังกล่าวในนามของโครงการ COVAX ของสหประชาชาติให้แก่เกาหลีเหนือ
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2564 และอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค., ออสเตรเลียจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.ค., อียูมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.