รัฐสภายูเครนลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ให้การรับรองและควบคุมการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีด้วยคะแนนเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ โดยยูเครนนับเป็นประเทศที่ 5 ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ที่มีการออกกฎหมายรับรองการใช้งานบิตคอยน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งส่งสัญญาณว่า รัฐบาลทั่วโลกเริ่มมองว่าสกุลเงินคริปโตอย่างบิตคอยน์นั้นจะยังคงอยู่ต่อไปอีกนาน
ร่างกฎหมายนี้จะให้การคุ้มครองสำหรับผู้ถือบิตคอยน์และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ในกรณีถูกฉ้อโกง ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการกำหนดนิยามทางกฎหมายของคำศัพท์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตไว้อย่างชัดเจน เช่น สินทรัพย์เสมือน, กระเป๋าเงินดิจิทัล และกุญแจส่วนตัว
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังรอการลงนามรับรองโดยประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี
ร่างกฎหมายนี้มีการเริ่มเสนอมาตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากก่อนหน้านี้การซื้อขายสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีในยูเครนนั้นอยู่ในพื้นที่สีเทาทางกฎหมาย กล่าวคือ ประชาชนชาวยูเครนสามารถซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลได้ แต่บริษัทผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมักจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษ
หนังสือพิมพ์เคียฟ โพสต์ของยูเครนรายงานว่า เจ้าหน้าที่มักดำเนินการอย่างเข้มงวดเมื่อเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล โดยเจ้าหน้าที่มองว่าสกุลเงินคริปโตโดยทั่วไปนั้นเป็นการหลอกลวง และได้ทำการบุกตรวจค้นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซี และยึดอุปกรณ์ราคาแพงอยู่บ่อยครั้งโดยไม่มีหลักฐานชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น กรณีเมื่อเดือนส.ค. ที่หน่วยบริการรักษาความปลอดภัยของยูเครน (SBU) ทำการบล็อกเครือข่ายที่หน่วยงานระบุว่าเป็น "บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีแบบผิดกฎหมาย" ในกรุงเคียฟ โดย SBU อ้างว่า ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนเหล่านี้ให้การช่วยเหลือในกระบวนการฟอกเงิน และเปิดทางให้ทำธุรกรรมได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน