ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน
-- นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะเปิดบวกเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงก่อนหน้านี้จากการที่โรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าลง ประกอบกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางต่างๆ จะลดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัญญาฟิวเจอร์หุ้นญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และฮ่องกงบ่งชี้ว่า ตลาดจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
อย่างไรก็ดี ECB ไม่ได้ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในการประชุมวานนี้ โดยโครงการดังกล่าวเทียบเท่ากับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในการประชุมเมื่อวานนี้
"จากการประเมินสภาวะทางการเงินและแนวโน้มเงินเฟ้อ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของ ECB มีความเห็นว่า ECB สามารถรักษาสภาวะทางการเงินที่น่าพึงพอใจด้วยการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในโครงการ PEPP เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และ ECB พร้อมที่จะปรับเครื่องมือทุกอย่างตามความเหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ECB ในระยะกลาง" แถลงการณ์ของ ECB ระบุ โดยไม่ได้ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการดังกล่าวอย่างชัดเจน
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 5% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.6%
-- ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ เตรียมจัดอีเวนต์เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในวันที่ 14 ก.ย.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเที่ยงคืนย่างเข้าสู่วันที่ 15 ก.ย.ตามเวลาไทย
คาดว่าแอปเปิลจะตั้งชื่อ iPhone รุ่นใหม่ว่า iPhone 13 โดยจะมี 4 รุ่นคือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
Apple Hub ซึ่งเป็นบล็อกที่รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแอปเปิล เปิดเผยว่า ราคา iPhone 13 ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้าจะมีราคาเท่ากับ iPhone 12 ทุกรุ่นที่ได้เปิดตัวไปในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
-- กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Eta จำนวน 18 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวในญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Eta ในหลายประเทศทั่วโลกนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นยังเปิดเผยว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ Kappa จำนวน 19 รายเมื่อวันที่ 3 ก.ย.
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศจับตาไวรัสทั้งสองสายพันธุ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเป็นสายพันธุ์ไวรัสที่ต้องให้ความสนใจ (variants of interest)
-- สหภาพยุโรป (EU) ประกาศถอดญี่ปุ่น แอลเบเนีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจัน บรูไน และเซอร์เบีย ออกจากรายชื่อประเทศที่ปลอดภัยด้านการเดินทาง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเหล่านั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับรายชื่อประเทศปลอดภัยล่าสุดของ EU ได้แก่ ออสเตรเลีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา แคนาดา จอร์แดน นิวซีแลนด์ กาตาร์ มอลโดวา ซาอุดีอาระเบีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ยูเครน อุรุกวัย จีน ฮ่องกง และมาเก๊า
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลกระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกสะสมมีจำนวน 223,720,246 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 4,614,250 ราย
-- กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 5,990 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 4,153,355 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 310,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 จากระดับ 345,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 335,000 ราย
อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
-- นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงิน QE หรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.