นายเต็งกู ซาฟรูล อับดุล อาซิซ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังมาเลเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลมาเลเซียเตรียมยื่นร่างงบประมาณเพิ่มเติมต่อรัฐสภา เพื่อขออนุมัติงบประมาณสำหรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 พร้อมกับปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะที่ทางการกำหนดไว้ให้สูงขึ้น
นายซาฟรูลเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่นำโดยนายอิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ นายกรัฐมนตรี ตั้งใจจะเพิ่มงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านริงกิต (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ต่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ส่งผลให้งบประมาณส่วนนี้มีวงเงินรวม 1.10 แสนล้านริงกิต
นอกจากนี้ นายซาฟรูลยังระบุว่า รัฐบาลมาเลเซียวางแผนที่จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภาเพื่อปรับระดับเพดานหนี้สาธารณะให้สูงขึ้น จากเดิม 60% สู่ 65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
"เราเชื่อว่าในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเช่นนี้ เราไม่ควรถอนความช่วยเหลืออย่างรีบร้อนเกินไป และต้องสนับสนุนเศรษฐกิจช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแปลว่าเราต้องใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวต่อไปจนถึงปี 2565" นายซาฟรูลกล่าวกับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลมาเลเซียได้ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้วราว 5.3 แสนล้านริงกิต (1.277 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ในปี 2563 มาเลเซียปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะจาก 55% สู่ 60% ของ GDP หลังต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกของมาเลเซียหลังจากเผชิญวิกฤตการเงินทั่วโลกเมื่อปี 2552