รัฐบาลอังกฤษเตรียมเริ่มระดมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนกลุ่มสูงอายุและกลุ่มเปราะบาง โดยเป็นการเลือกพึ่งพาวัคซีน แทนการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อรับมือกับฤดูหนาวที่อาจมีอุปสรรคมากขึ้น
-- รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้อาชญากรรมทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น 13% โดยผู้ประสงค์ร้ายได้พุ่งเป้าโจมตีผู้ที่ทำงานจากที่บ้าน รวมถึงสอดแนมบุคคลที่สุ่มเสี่ยงและผู้ให้บริการทางการแพทย์ เพื่อหวังขโมยเงินและล้วงข้อมูลสำคัญ
-- ทางการญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลงสู่ทะเลนอกชายฝั่งตะวันออกในวันนี้ โดยขีปนาวุธไม่ได้ตกลงสู่เขตแดนของญี่ปุ่น แต่เชื่อว่าตกลงในพื้นที่ด้านนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษของญี่ปุ่น
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้ปฏิเสธข้อเสนอของปธน.ไบเดนที่ต้องการจัดการประชุมหารือแบบพบหน้ากัน
"เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง" ปธน.ไบเดนตอบคำถามหลังผู้สื่อข่าวถามว่า เขาผิดหวังหรือไม่ที่ปธน.สีไม่ต้องการหารือร่วมกับเขา
-- การส่งออกของอินโดนีเซียในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.142 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น ทำให้อินโดนีเซียมีการเกินดุลการค้ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบรายเดือน
-- บริษัทแอมะซอน ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ ประกาศแผนการจ้างงาน 125,000 ตำแหน่งในสหรัฐ นอกเหนือจากตำแหน่งงานระดับองค์กรและเทคโนโลยี 40,000 ตำแหน่งที่ประกาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
บริษัทแอมะซอนระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มต้นของการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทได้จ้างพนักงานมากกว่า 450,000 รายในสหรัฐ และ 1 ใน 10 ของพนักงานรายชั่วโมงที่ทำงานกับบริษัท 6 เดือนหรือนานกว่านั้น ได้รับการเลื่อนขั้น ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นผู้สร้างงานมากที่สุดในสหรัฐ
-- บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ เปิดเผยว่า บริษัทจะยังคงเพิ่มจำนวนทีมนักวิจัย แม้บริษัทจะสูญเสียรายได้จากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
ทั้งนี้ หัวเว่ยได้เพิ่มงบประมาณด้านการวิจัยให้มากขึ้น เพื่อให้จีนสามารถสร้างเทคโนโลยีของตัวเองได้ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนยังคงเดินหน้าแข่งขันกับจีน พร้อมออกมาตรการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐ
-- นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวในระหว่างแถลงนโยบายประจำปีว่า ประเทศทั่วโลกต้องเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน
รายงานระบุว่า แถลงการณ์ต่อสมาชิกสหภาพยุโรปครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ของนางฟอน เดอร์ เลเยนตั้งแต่ที่เธอเข้าดำรงตำแหน่งประธาน EC และมีขึ้นหลังจากยุโรปต้องผ่านระยะเวลา2 ปีอันยากลำบาก ซึ่งทดสอบความสามารถในการปรับตัวของสหภาพฯต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19, ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำอย่างรุนแรง และความตึงเครียดหลังสหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
"เราต้องสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดการแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน" นางฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวต่อที่ประชุมสภาสหภาพยุโรปในเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส
-- สหภาพยุโรป (EU) ได้ให้คำมั่นในวันนี้ว่า จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยให้ประเทศยากจนต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ รวมถึงรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐเพิ่มความช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย
"ตอนนี้เราจะเสนอความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มอีก 4 พันล้านยูโร เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไปจนถึงปี 2570" นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กล่าวในระหว่างการแถลงนโยบายที่รัฐสภายุโรปในเมืองสตราสบูร์กของฝรั่งเศส
-- นายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเปิดเผยว่า จะสนับสนุนนายทาโร โคโนะ รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบด้านการฉีดวัคซีนของญี่ปุ่น ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ในวันที่ 29 ก.ย. โดยเป็นการถอนตัวจากการแข่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไปอย่างเป็นทางการ
-- หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เตรียมพบกับผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ ได้แก่ วอลท์ ดิสนีย์, ไมโครซอฟท์ และวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ เพื่อหารือถึงมาตรการกำหนดการฉีดวัคซีนสำหรับภาคเอกชน