รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศขยายเวลาระงับโครงการ "Travel Bubble" หรือโครงการอนุญาตให้มีการเดินทางระหว่างสองประเทศโดยไม่จำเป็นต้องกักตัวผู้เดินทาง ออกไปอีก 8 สัปดาห์นับตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ก่อนหน้านี้ นิวซีแลนด์และออสเตรเลียได้ระงับโครงการ Travel Bubble เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการระงับเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่มีการเปิดตัวโครงการดังกล่าว เนื่องจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้แพร่ระบาดทั่วเมืองซิดนีย์และเมลเบิร์น โดยในเบื้องต้นนั้นการระงับโครงการจะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 ก.ย.นี้ แต่ล่าสุดทั้งสองประเทศได้ตกลงเลื่อนการระงับออกไปอีก 8 สัปดาห์
รายงานระบุว่า นิวซีแลนด์ได้ตัดสินใจระงับโครงการ Travel Bubble ทันทีหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาจากออสเตรเลีย ซึ่งนำไปสู่การแพร่ระบาดในเมืองโอ๊คแลนด์ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ และเป็นสาเหตุให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเมื่อเดือนที่แล้ว โดยขณะนี้เมืองโอ๊คแลนด์ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่เมืองอื่นๆ เริ่มมีการเปิดเศรษฐกิจแล้ว
นายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ของนิวซีแลนด์กล่าวว่า "เรามีความคืบหน้าอย่างมากในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเราทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในสัปดาห์หน้า แต่เรามองว่า การกลับมาเปิดโครงการ Travel Bubble ร่วมกับออสเตรเลียในขณะนี้ยังคงมีความเสี่ยง"
ทั้งนี้ นายฮิปกินส์กล่าวว่า รัฐบาลจะทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้งในช่วงกลางถึงปลายเดือนพ.ย.นี้