ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น (20 ก.ย.) โดยระบุว่า นับตั้งแต่เดือนพ.ย.นี้เป็นต้นไป สหรัฐจะอนุญาตให้ผู้โดยสารที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจาก 33 ประเทศซึ่งรวมถึงจีน อินเดีย บราซิล และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เดินทางเข้าสหรัฐได้ โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางที่เข้มงวดซึ่งสหรัฐได้บังคับใช้มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว
-- เจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนีเปิดเผยว่า เยอรมนีอาจฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในช่วงต้นปี 2565
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทไฟเซอร์และไบออนเทค เอสอีระบุว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทางบริษัทมีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี และทางบริษัทวางแผนที่จะขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลโดยเร็วที่สุดเพื่อฉีดวัคซีนให้กับเด็กในช่วงอายุดังกล่าวในสหรัฐ ยุโรป และที่อื่นๆ
-- โกลด์แมน แซคส์เปิดเผยว่า นักลงทุนได้รุกเข้าลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียอย่างคึกคักในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้มูลค่าของตลาดหุ้นอินเดียขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ และจะช่วยหนุนตลาดหุ้นอินเดียก้าวขึ้นเป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกแซงหน้าตลาดหุ้นอังกฤษภายใน 3 ปีนี้
-- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่า เฟดจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ย.นี้
-- เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) คาดการณ์ว่า บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ปซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดอันดับสองของจีนมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ และเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะไม่ให้การสนับสนุนโดยตรงแก่เอเวอร์แกรนด์ แม้นักลงทุนมีความวิตกเพิ่มมากขึ้นว่า เอเวอร์แกรนด์อาจจะผิดนัดชำระหนี้การจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในเดือนนี้
-- -อิตาลี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานและเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำ G20 เปิดเผยว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของกลุ่ม G20 จะพบปะกันทางออนไลน์ในวันพุธนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน
-- อิตาลีเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นหรือโดสที่ 3 แล้ววานนี้ (20 ก.ย.) หลังจากที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากองค์การแพทยศาสตร์อิตาลี (AIFA)
-- ธนาคาร ING ของเนเธอร์แลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า ทีมปรับโครงสร้างหนี้ของรัฐบาลจีนจะช่วยเหลือบริษัทเอเวอร์แกรนด์ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง โดยคาดว่า ทางการจีนจะช่วยให้เอเวอร์แกรนด์ได้รับเงินทุนบางส่วน แต่เอเวอร์แกรนด์อาจจะต้องขายหุ้นออกไปให้กับบุคคลที่ 3 เช่น รัฐวิสาหกิจของจีน
-- บริษัทมากกว่า 200 บริษัท รวมถึง ทวิตเตอร์, เซลส์ฟอส และ พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ได้ลงนามปฏิญญา Climate Pledge เพื่อมุ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนของกิจการของตนให้เหลือศูนย์ในช่วง 2 ทศวรรษข้างหน้า
-- บริษัทโบอิ้ง เปิดเผยว่า สายการบินต้นทุนต่ำของยุโรปจะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อเครื่องบินใหม่ในภูมิภาคในช่วง 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากสายการบินต้องการเครื่องบินใหม่ที่ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า เพื่อทดแทนเครื่องบินรุ่นเก่า
-- คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐสภาญี่ปุ่นจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันที่ 4 ต.ค.นี้ในการประชุมรอบพิเศษ ซึ่งหมายถึงว่าการเลือกตั้งทั่วไปมีแนวโน้มจะมีขึ้นในเดือนพ.ย. หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหมดวาระแล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในยุคหลังสงคราม
-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเตรียมลงทุนมูลค่า 360 ล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาโรงงานสังเคราะห์สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (API) หรือวัตถุดิบหลักของยา ในประเทศไอร์แลนด์
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยไม่เพิ่มแรงกดดันให้กับสกุลเงินรูเปียห์
-- ราคาที่ดินของญี่ปุ่นปรับตัวลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องจากการปิดพรมแดนประเทศและการประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อความต้องการในการทำร้านอาหารและสร้างโรงแรมใหม่