ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวน 1.10 แสนล้านหยวน (1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นจำนวนเงินมากที่สุดในรอบ 8 เดือน หลังจากตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน
นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีนมีเป้าหมายที่จะทำให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่บริษัทเอเวอร์แกรนด์จะผิดนัดชำระหนี้
เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ 2 งวดในวันนี้ (23 ก.ย.) โดยมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยวงเงิน 232 ล้านหยวน หรือราว 35.88 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. 2568 รวมทั้งจ่ายดอกเบี้ยอีกก้อนหนึ่งวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค. 2565
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินจำนวน 9 หมื่นล้านหยวน (1.88 หมื่นล้านดอลลาร์) และอัดฉีดเงินอีกจำนวน 1 แสนล้านหยวนในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงภาวะสภาพคล่องตึงตัวในระบบหลังจากบริษัทเอเวอร์แกรนด์ประสบปัญหาสภาพคล่องลดลง และมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้