กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของญี่ปุ่นปรับตัวลง 3.2% เนื่องจากการผลิตรถยนต์ชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการขาดแคลนชิปทั่วโลก และซัพพลายเชนที่สะดุดลง
ทั้งนี้ กระทรวงฯได้ปรับลดการประเมินผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในรอบ 16 เดือน โดยระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม "ได้หยุดชะงักลง" เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ปีที่แล้วจนถึงเดือนก.ค.ปีนี้ที่ทางกระทรวงฯประเมินว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม "ฟื้นตัวขึ้น"
รายงานของกระทรวงฯยังระบุด้วยว่า การผลิตในอุตสาหกรรมรถยนต์ปรับตัวลง 15.2% ในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก รวมทั้งการปิดโรงงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลให้การขนส่งชิ้นส่วนรถยนต์ต้องหยุดชะงัก
ส่วนการผลิตเครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกด้านสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น แล็บท็อปคอมพิวเตอร์ ปรับตัวลง 10.6% เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิปและชิ้นส่วนอุปกรณ์อื่น ๆ
จากการสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้ผลิตในภาคอุตสหกรรมญี่ปุ่น ทางกระทรวงฯ คาดการณ์ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนก.ย.มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น 0.2% และคาดว่าจะพุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนต.ค.