นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป แม้ว่าอีกไม่นานเศรษฐกิจญี่ปุ่นต้องอยู่ภายใต้การบริหารของนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ตาม เนื่องจาก BOJ เล็งเห็นว่าการผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างรวดเร็วนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
หลังจากที่นายคิชิดะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อวานนี้ นายคุโรดะได้กล่าวในการประชุมเสวนาทางออนไลน์ซึ่งจัดโดยธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในปีนี้หรืออาจจะต้นปีหน้า แต่ BOJ ก็จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหากจำเป็น
"ไม่ว่านโยบายการคลังหรือนโยบายด้านการกำกับดูแล หรือนโยบายอื่น ๆ จะเป็นเช่นใดในรัฐบาลชุดใหม่ แต่เราในฐานะธนาคารกลางญี่ปุ่น จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป เพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% อย่างมีเสถียรภาพโดยเร็ว นี่เป็นภารกิจของเรา และเราจะไม่เปลี่ยนแปลง" นายคุโรดะกล่าว
ทั้งนี้ นายคุโรดะกล่าวว่า ทั้ง BOJ และรัฐบาลญี่ปุ่นต่างก็มีบทบาทเป็นของตนเอง แต่การทำงานด้วยกันถือเป็นสิ่งที่ดี
ทางด้านนายคิชิดะ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นนั้น ได้กล่าวในระหว่างการรณรงค์หาเสียงภายในพรรคว่า นโยบายการเงินที่ชัดเจน รวมทั้งเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ของ BOJ นั้น ถือเป็นมาตรฐานโลก และควรรักษาไว้
นายคิชิดะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP เมื่อวานนี้ ซึ่งจะปูทางให้นายคิชิดะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น หลังจากที่นายโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นายคิชิดะได้รับคะแนนโหวต 257 คะแนน เฉือนเอาชนะนายทาโร โคโนะ ผู้ท้าชิงซึ่งได้ 170 คะแนน
ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรค LDP ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาในญี่ปุ่น จึงทำให้นายคิชิดะจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันทีที่สภาไดเอทเริ่มการประชุมสมัยวิสามัญในวันจันทร์ที่จะถึงนี้