ตัวเลขประมาณการอุตสาหกรรมใหม่บ่งชี้ว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐคาดว่าจะทรุดหนักในเดือนก.ย. ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลงอย่างน้อย 13% ในไตรมาส 3 เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิปยังคงทำให้การผลิตหยุดชะงัก
ค็อกซ์ ออโตโมทีฟ, เอ็ดมุนด์, และเจดีพาวเวอร์/แอลเอ็มซี ออโตโมทีฟคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย.จะน้อยกว่า 3.4 ล้านคัน ซึ่งลดลง 13-14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ปริมาณรถยนต์ลดลง เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนรถยนต์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องปิดโรงงานเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์หรือกระทั่งหลายเดือน เมื่อการผลิตขาดแคลนประกอบกับมีความต้องการสูงจากผู้บริโภค ทำให้ปริมาณรถยนต์ในสต็อกลดลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
เจสสิกา คาลด์เวลล์ ผู้อำนวยการบริหารด้านข้อมูลเชิงลึกของเอ็ดมุนด์เปิดเผยว่า "อุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐทั้งหมดซึ่งรวมถึงผู้ผลิตเอเชียที่ดำเนินงานได้ดีกว่าผู้ผลิตในสหรัฐเล็กน้อยจนกระทั่งเมื่อไม่นานนี้นั้น มีความผันผวนอย่างมากในขณะนี้ และเราเห็นราคาขายปลีกที่สูงเกินจริงทั่วทั้งประเทศ"
นักวิเคราะห์ของค็อกซ์คาดการณ์ว่า อุปทานรถยนต์จะดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 4 และจะดีขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2565 แต่อาจจะไม่กลับไปสู่ระดับ "ปกติ" จนถึงปี 2566
ทั้งนี้ ผู้ผลิตรถยนต์ตั้งเป้าที่จะลดปริมาณสต็อกรถยนต์ในอนาคตเพื่อเพิ่มผลกำไรและราคารถยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แล้ว