ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (BNZ) เปิดเผยข้อมูลใหม่ในวันนี้ว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในเมืองโอ๊คแลนด์เพิ่มขึ้น 28% ในช่วงสัปดาห์แรกที่มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์คุมโควิด-19 ลงสู่ระดับ 3
อย่างไรก็ดี ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรทั่วประเทศนิวซีแลนด์ดีดตัวขึ้นเพียง 5% ซึ่งต่ำกว่าระดับก่อนล็อกดาวน์
เมืองโอ๊คแลนด์ได้ลดระดับความเข้มงวดในการใช้มาตรการล็อกดาวน์ลงสู่ระดับ 3 เมื่อวันที่ 22 ก.ย.เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดและบังคับใช้เป็นเวลามากกว่า 30 วัน โดยมีการสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจที่ไม่จำเป็น และนับเป็นการล็อกดาวน์ที่ยาวนานกว่าในปีที่แล้ว
ในการใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับ 3 นั้น งานก่อสร้างและร้านที่ให้บริการซื้อกลับบ้านสามารถกลับมาเปิดต่อได้โดยต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่จำเป็น ในขณะที่ยังคงส่งเสริมให้นักเรียนส่วนใหญ่เรียนออนไลน์ที่บ้าน
นายพอล คอนเวย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BNZ กล่าวว่า "การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลงสู่ระดับ 3 ในโอ๊คแลนด์ทำให้ยอดการใช้จ่ายเมืองแห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากประชาชนมีอิสระมากขึ้นและธุรกิจสามารถดำเนินการได้มากขึ้น โดยการใช้จ่ายดีดตัวขึ้นถึง 28% อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับก่อนล็อกดาวน์ของโอ๊คแลนด์อยู่ประมาณ 22%"
"การใช้จ่ายทางออนไลน์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับระดับก่อนล็อกดาวน์ด้วยเช่นกัน โดยการทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นจากระดับ 23% มาเป็น 28% ในขณะนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าจะรักษาระดับนี้ได้นานเท่าใดนั้นยังคงต้องดูกันต่อไปเนื่องจากโอ๊คแลนด์สามารถลดระดับการล็อกดาวน์ลงได้ แต่สถานการณ์นับจนถึงขณะนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของธุรกิจที่มีการดำเนินงานผ่านระบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล" นายคอนเวย์กล่าว
ทั้งนี้ นายคอนเวย์กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง