บริษัทและบุคคลในญี่ปุ่นมากกว่า 1,000 รายมีชื่อปรากฏอยู่ในเอกสารเกี่ยวกับแหล่งหลบเลี่ยงภาษีที่รั่วไหล ซึ่งชื่อว่า "แพนโดรา เปเปอร์" (Pandora Papers) หนึ่งในนั้นมีนายมาซาโยชิ ซัน ประธานและซีอีโอของบริษัทซอฟต์แบงก์รวมอยู่ด้วย โดยรายงานดังกล่าวระบุถึงการโอนถ่ายความมั่งคั่งไปยังเขตแดนไม่มีการเก็บภาษีรายได้และกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลก
นอกจากนี้ รายชื่อที่ปรากฎในเอกสารที่ได้รับจากสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนนานาชาติ (ICIJ) นั้น ยังมีนายทาเคโอะ ฮิราตะ อดีตหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการส่งเสริมการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกรวมอยู่ด้วย
เอกสารดังกล่าวที่ ICIJ เรียกว่า แพนโดรา เปเปอร์ นั้นเป็นไฟล์ภายในองค์กรที่รั่วไหลออกมาจากหน่วยงาน 14 แห่ง เช่น บริษัททรัสต์และสำนักงานกฎหมายที่เชี่ยวชาญในการจัดตั้งและจัดการบริษัทในดินแดนแหล่งหลบเลี่ยงภาษี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ICIJ เป็นที่รู้จักจากการเปิดเผยถึงประเด็นการหลีกเลี่ยงภาษีของบุคคลและบริษัทที่ร่ำรวยที่สุดในโลกต่อสาธารณชน จากกรณีของปานามา เปเปอร์เมื่อ 2559
ข้อมูลในแพนโดรา เปเปอร์ระบุว่า นายซัน ประธานและซีอีโอของบริษัทซอฟต์แบงก์ได้ซื้อเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเมื่อปี 2557 ผ่านบริษัทที่จัดตั้งขึ้นบนหมู่เกาะเคย์แมนเมื่อปี 2552 ซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของอังกฤษซึ่งถือเป็นแหล่งหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทข้ามชาติ
ทั้งนี้ นายซันได้โอนกรรมสิทธิ์เครื่องบินลำดังกล่าวให้กับบริษัททรัสต์ของสหรัฐ โดยนายซันได้จ่ายค่าธรรมเนียมเมื่อใช้เครื่องบินเจ็ทตามสัญญาเช่า
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการเงินกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้มั่งคั่งบางรายต้องการลดภาษีเงินได้ด้วยการชำระค่าธรรมเนียมการใช้เครื่องบินดังกล่าว แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเจ้าของเครื่องบินอย่างเต็มตัวก็ตาม เนื่องจากค่าธรรมเนียมการใช้ถือได้ว่าเป็นการใช้จ่ายประเภทหนึ่ง