ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงอันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้
ปธน.ไบเดนยังได้กล่าวโจมตีสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ขัดขวางความพยายามในการเพิ่มเพดานหนี้ว่าเป็นพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอก พร้อมระบุว่า คณะบริหารของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้ก่อหนี้สินเกือบ 8 ล้านล้านดอลลาร์ และต่อมายังได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินสำหรับการปรับลดภาษีและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
"รีพับลิกันไม่ได้โหวตสนับสนุนการปรับขึ้นเพดานหนี้เพื่อให้ครอบคลุมการใช้จ่ายของพวกเขาเอง รีพับลิกันไม่ใช่แค่ไม่ทำหน้าที่ของตนเองเท่านั้น แต่พวกเขายังขู่ที่จะใช้อำนาจของตนเองเพื่อกีดกันเราไม่ให้สามารถทำงานของเราและปกป้องเศรษฐกิจจากหายนะร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
"ถ้าให้ผมพูดตรง ๆ ก็คือว่า นี่คือพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอก, เป็นอันตราย และเนรคุณ ผมคิดว่าพวกเขาควรหลีกทางให้คนอื่นได้ทำงานจะดีกว่า" ปธน.ไบเดนกล่าวที่ทำเนียบขาว
นางเยลเลนกล่าวเตือนก่อนหน้านี้ว่า สภาคองเกรสมีเวลาไม่มากนักในการพิจารณาเรื่องการขยายเพดานหนี้ และหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเกิดกับเศรษฐกิจของประเทศ
"สิ่งที่เราประมาณการในขณะนี้ก็คือว่า เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังจะหมดลง หากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค.นี้ ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราคาดว่ากระทรวงการคลังจะมีทรัพยากรที่จำกัดมากและจะหมดลงอย่างรวดเร็ว" นางเยลเลนกล่าว
ทั้งนี้ เพดานหนี้คือจำนวนเงินทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐได้รับอนุญาตให้ทำการกู้ยืมเพื่อให้รัฐบาลสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสวัสดิการด้านประกันสังคมและด้านสุขภาพ, ดอกเบี้ยตราสารหนี้ของรัฐบาล และการใช้จ่ายอื่น ๆ