กระทรวงต่างประเทศมาเลเซียได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตจีนประจำมาเลเซียเข้าพบ เพื่อประท้วงเหตุที่เรือของจีนรุกล้ำเข้าน่านน้ำในเขตเศรษฐกิจมาเลเซียในทะเลจีนใต้
-- นักวิจัยจากบริษัทไฟเซอร์และไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต้เปิดเผยผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ไฟเซอร์พัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัทไบออนเทคของเยอรมนี โดยระบุว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลงจากเดิม 88% เหลือเพียง 47% หลังฉีดโดสสองไปได้ 6 เดือน
-- นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศว่า ออสเตรเลียจะสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) จากบริษัทเมอร์ค แอนด์ โคเป็นจำนวน 300,000 โดส เพื่อใช้เป็นตัวช่วยในการรับมือกับโควิด-19 ขณะที่ออสเตรเลียเตรียมเปิดพรมแดนการเดินทางในเดือนหน้า
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ออสเตรเลียมียอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.51 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนส.ค. จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ร้ายแรงอันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้
-- ข้อมูลจาก Bloomberg Billionaires Index ระบุว่า ความมั่งคั่งของนายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเฟซบุ๊ก ลดลงกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เฟซบุ๊กประสบปัญหาระบบล่มเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.)
-- นิวซีแลนด์จะเริ่มใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงการฉีดวัคซีนแล้วสำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมงานขนาดใหญ่ต่าง ๆ รวมถึงในสถานที่ซึ่งมีความเสี่ยงสูงตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ขณะที่นิวซีแลนด์กำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
-- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับออกแถลงการณ์เตือนเกี่ยวกับราคาบ้านที่พุ่งขึ้นอย่างมาก และยังได้ส่งสัญญาณว่าอาจใช้มาตรการควบคุมการกู้จำนองเพื่อสกัดความร้อนแรงของตลาดที่อยู่อาศัย
-- สมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกจะขาดทุนเกือบ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 โดยขาดทุนลดลง 78% จากยอดขาดทุนของปีนี้ ขณะที่ธุรกิจสายการบินยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ระบาด
-- บริษัทแฟนตาเซีย โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อีกแห่งหนึ่งของจีน ประสบปัญหาผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้มูลค่า 206 ล้านดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดชำระเมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) โดยนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า วิกฤตหนี้สินของไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีนนั้น กำลังบั่นทอนเศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน
-- ผลการศึกษาซึ่งจัดทำโดยทีมนักวิเคราะห์ของ Atlantic Council และ Rhodium Group ระบุว่า เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงที่จะชะลอตัวลงหากจีนไม่ดำเนินการอย่างเพียงพอในการกระตุ้นการแข่งขันในตลาดด้วยการเปิดทางให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในระบบเศรษฐกิจ และเพิ่มกระแสการลงทุนข้ามพรมแดนแบบสองทาง
-- องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) อนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคเป็นโดสกระตุ้นให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
-- รัฐบาลสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์จีน หลังส่งเครื่องบินทหารกว่า 56 ลำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวัน โดยระบุว่าเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
-- นายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ออสเตรเลียจะไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้าประเทศจนกว่าจะถึงปีหน้า (2565) โดยจะให้ลำดับความสำคัญกับกลุ่มผู้อพยพที่เป็นแรงงานฝีมือ รวมถึงนักเรียน-นักศึกษามาเป็นอันดับต้น ๆ
-- บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อหน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขของสหรัฐเพื่อขออนุมัติใช้ยา AZD7442 ในกรณีฉุกเฉิน โดยยาดังกล่าวเป็นการรักษาด้วยแอนติบอดีเพื่อป้องกันอาการรุนแรงของโรคโควิด-19
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ยอดช็อปปิงออนไลน์ของเกาหลีใต้เดือนส.ค. ปรับตัวขึ้นในอัตราเลขสองหลัก เนื่องจากการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ยอดบริการสั่งอาหารทางออนไลน์ปรับตัวขึ้น
-- บริษัทมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า บริษัทวางแผนที่จะลดกำลังการผลิตที่โรงงาน 2 แห่งภายในประเทศเดือนนี้ เนื่องจากบริษัทไม่สามารถที่จะจัดหาชิปได้เพียงพอ หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
-- สำนักงานสถิติฟิลิปปินส์ (PSA) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของฟิลิปปินส์ปรับตัวลงแตะระดับ 4.8% ในเดือนก.ย. จากระดับ 4.9% ของเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจากราคาอาหารและค่าขนส่งสินค้าเริ่มลดลง