นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงส่งสัญญาณว่า รัฐบาลฮ่องกงจะยังคงใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าสิงคโปร์ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการ ด้วยการเปิดให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจากอีก 9 ประเทศเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว
นางลัมเปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กในช่วงเช้านี้ว่า "แม้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียงรายเดียวก็อาจสร้างความวิตกกังวลอย่างมากในสังคม และรัฐบาลฮ่องกงมีหน้าที่ต้องปกป้องดูแลประชาชน"
"แน่นอนว่าดิฉันมีความกังวล และเราก็ทำงานกันหนักมากเพื่อที่จะให้การเดินทางกลับสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปและเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่นเดียวกับในจีนแผ่นดินใหญ่และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก" นางลัมกล่าว โดยรัฐบาลฮ่องกงภายใต้การนำของนางลัมได้ยึดมั่นในนโยบาย "โควิดเป็นศูนย์" ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเปิดพรมแดน
นอกจากนี้ นางลัมเปิดเผยว่า ฮ่องกงและเจ้าหน้าที่จีนได้จัดการประชุมร่วมกันเกี่ยวกับการเปิดพรมแดน ซึ่งการประชุมดำเนินไปด้วยดี
"เราได้ตกลงกันว่าจะกำหนดขอบเขตของมาตรการและยังได้หารือกันเกี่ยวกับแนวทางในการเปิดพรมแดนอย่างค่อยเป็นค่อยไป" นางลัมกล่าว พร้อมระบุว่า การบรรลุเป้าหมายการฉัดวัคซีนถือเป็นอีกหนึ่งในเงื่อนไขของการเปิดพรมแดน โดยนับจนถึงขณะนี้ อัตราการฉีดวัคซีนในฮ่องกงยังไม่ถึง 70%
การแสดงความเห็นของนางลัมถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ฮ่องกงยังคงใช้มาตรการควบคุมการเดินทางต่อไปอีกระยะหนึ่ง แม้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ได้ประกาศว่าจะเปิดให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจากอีก 9 ประเทศเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว
โครงการดังกล่าวซึ่งสิงคโปร์ประกาศใช้กับผู้เดินทางจากบรูไนและเยอรมนีเมื่อเดือนที่แล้วนั้น จะขยายครอบคลุมอีก 9 ประเทศซึ่งได้แก่ อังกฤษ, แคนาดา, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, เกาหลีใต้, สเปน และสหรัฐ
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังได้เปิดรับผู้เดินทางจากจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และมาเก๊าแล้ว เนื่องจากมีความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 อยู่ในระดับที่ต่ำมาก