World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 25, 2021 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก, อัลฟาเบท, ไมโครซอฟท์, แอมะซอน และแอปเปิล นอกจากนี้ บริษัทแคทเธอร์พิลลาร์, โคคา-โคลา, โบอิ้ง และแมคโดนัลด์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้เช่นกัน

ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัทจำนวน 117 แห่งในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แล้ว โดย 84% ในจำนวนนี้มีผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์

-- ตลาดการเงินจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนเตือนว่า การแพร่ระบาดอาจรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พร้อมกับออกคำแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามมณฑล

นายหมี่ เฟิง โฆษกของ โฆษกคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้แพร่กระจายไปยัง 11 มณฑลตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค. โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีประวัติการเดินทางข้ามมณฑล ทั้งนี้ นายหมี่เรียกร้องให้มณฑลที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้หันมาใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อควบคุมการระบาด

-- นายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำคณะทำงานด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปีนั้น คาดว่าจะพร้อมฉีดได้ภายในครึ่งแรกของเดือนพ.ย. ซึ่งแปลว่า เด็กและเยาวชนในสหรัฐจำนวนมากอาจได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสภายในสิ้นปีนี้

"หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐให้การอนุมัติและคำแนะนำ ก็เป็นไปได้มากว่าเราจะมีวัคซีนพร้อมฉีดให้กับเด็กอายุ 5-11 ปีภายในสัปดาห์แรกหรือสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพ.ย." นายแพทย์เฟาชีให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซี

-- ค่าเงินลีราของตุรกีร่วงลง 1.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการทูต หลังจากที่ประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศขับไล่เอกอัครราชทูตของสหรัฐและอีก 9 ประเทศ ฐานเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายออสมัน คาวาลา แกนนำนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล

ทั้งนี้ นายคาวาลา ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มประชาคมจำนวนมาก ถูกจำคุกเป็นเวลา 4 ปี หลังถูกตั้งข้อหาให้เงินทุนสนับสนุนการประท้วงทั่วประเทศในปี 2556 และมีส่วนร่วมในการรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อปี 2559 ขณะที่นายคาวาลาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

-- เมืองเมลเบิร์นของออสเตรเลียเตรียมผ่อนคลายข้อกำหนดด้านโควิด-19 เพิ่มเติม เนื่องจากรัฐวิกตอเรียมีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสใกล้แตะที่ 80% แล้ว

เริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 29 ต.ค. เมื่อประชากรในรัฐวิกตอเรียฉีดวัคซีนครบโดสที่ระดับ 80% ชาวเมืองเมลเบิร์นจะสามารถเดินทางได้ตามปกติทั่วรัฐ และไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง

-- นายแจ็ค ดอร์ซีย์ ผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า ภาวะเงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้นในสหรัฐ พร้อมกล่าวว่าสถานการณ์มีแนวโน้มจะย่ำแย่ลงไปอีก

นายดอร์ซีย์ทวีตข้อความว่า "ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงจะเปลี่ยนทุกอย่าง" และ "มันกำลังเกิดขึ้น" พร้อมระบุว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเกิดขึ้นในสหรัฐเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่จะขยายตัวไปยังประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคในสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี ขณะหลายฝ่ายวิตกกังวลว่า ปัญหาดังกล่าวอาจเลวร้ายยิ่งกว่าที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้

-- สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ "เดลตา พลัส" ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บางรายระบุว่า อาจแพร่ระบาดได้มากกว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาเดิมที่สามารถแพร่กระจายได้ในระดับสูงอยู่แล้ว

ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า AY.4.2 นั้น เป็นการกลายพันธุ์ใหม่ของสไปค์โปรตีน A222V และ Y145H

ฟรังซัวส์ แบลูซ์ ผู้อำนวยการสถาบันพันธุศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอนระบุว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา พลัส อาจแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์เดลตาเดิมราว 10-15%

-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า สหรัฐจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับปกติภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

นางเยลเลนกล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNN วานนี้ว่า การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการ "Build Back Better" ซึ่งริเริ่มโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น จะมีการจัดสรรในอีก 10 ปีข้างหน้า และเธอคิดว่าการใช้จ่ายในโครงการเหล่านี้จะไม่ทำให้สถานการณ์เงินเฟ้อย่ำแย่ลง

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค. ขณะที่สถาบัน Ifo เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนต.ค.ของสหรัฐ ทางด้านสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย.จากเฟดชิคาโก และดัชนีการผลิตเดือนต.ค.จากเฟดดัลลัส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ