เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้นายฮุย คา ยัน ผู้ก่อตั้งบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ใช้เงินส่วนตัวมาบรรเทาหนี้สินของบริษัท ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนไม่เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือ
ขณะเดียวกัน หุ้นธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าของเอเวอร์แกรนด์พุ่งขึ้นถึง 17% ในการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังจากที่นายฮุยเปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะให้ความสำคัญกับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต มากกว่าจะมุ่งเน้นด้านอสังหาริมทรัพย์
-- สำหรับความเคลื่อนไหวด้านโควิด-19 ที่น่าสนใจนั้น สิงคโปร์จะอนุญาตให้นักเดินทางจากออสเตรเลียและสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วสามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.เป็นต้นไป
ด้านฮ่องกงยังคงยืนยันที่จะใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์และมีการกักตัวนักท่องเที่ยวเป็นเวลานาน ท่ามกลางเสียงเตือนจากประชาคมโลกถึงความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ ส่วนไทยพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าพลัสเป็นรายแรก และจีนได้เริ่มฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 3 ปีเพื่อหวังจัดการกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่
-- สหรัฐยกเลิกสิทธิ์ที่อนุญาตให้ไชน่า เทเลคอมของจีนดำเนินการในประเทศ ส่งผลให้ความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งสองทวีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม และถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐมุ่งต่อสู้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างหัวเว่ย
-- นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ ร่วมมือกับสหรัฐเพื่อกดดันให้ไต้หวันมีบทบาทมากขึ้นในองค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งประเด็นดังกล่าวได้ทำให้จีนไม่พอใจ
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ผ่านระบบการประชุมทางไกลเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของผู้นำสหรัฐในรอบ 4 ปี และเป็นการส่งสัญญาณว่าสหรัฐยังคงต้องการมีบทบาทในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และคานอำนาจจีน หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เข้าร่วมการประชุมในปี 2560 ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ แต่หลังจากนั้นก็ได้ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการประชุมถึง 3 ปีติดต่อกัน จนทำให้จีนสามารถแผ่อิทธิพลในภูมิภาคดังกล่าว
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวประณามรัฐบาลทหารของเมียนมาในการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยแสดงความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อการทำรัฐประหารและเหตุการณ์รุนแรงในเมียนมา พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลทหารของเมียนมายุติความรุนแรงโดยทันที และปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัว รวมทั้งฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยในเมียนมา
-- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 113.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 109.8 ในเดือนก.ย. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลงสู่ระดับ 108.3
ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
-- สมเด็จพระราชาธิบดีฮัสซานัล โบลเกียห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ออกแถลงการณ์ในฐานะประธานสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ระบุว่า เมียนมาควรได้รับโอกาสให้กลับสู่ภาวะปกติ สอดคล้องกับหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของสมาชิกอาเซียน
แถลงการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำว่า เมียนมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอาเซียน และเมื่อพิจารณาถึงหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของอาเซียน จึงเป็นเรื่องสำคัญในการเปิดช่องให้แก่เมียนมาในการกลับสู่ภาวะปกติ
-- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.ของเกาหลีใต้, กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย.ของจีน, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากสถาบัน GfK ของเยอรมนี รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.ของสหรัฐ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)