บรรดาผู้นำในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่โควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
นางรีเบคกา กรินสแปน เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) กล่าวในการประชุม "Future of Tourism World Summit" ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนาในระหว่างวันที่ 26-27 ต.ค.ว่า "อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ จนกว่าเราจะฉีดวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนาครบทุกประเทศ แต่นับจนถึงขณะนี้ มีประชาชนเพียง 3% ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ได้รับวัคซีนครบโดส เทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วซึ่งได้รับวัคซีนครบโดสแล้วกว่า 70%"
"การขาดแคลนวัคซีน และการได้รับวัคซีนอย่างไม่เท่าเทียมกัน เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ดังนั้น เราจำเป็นต้องสนับสนุนการเข้าถึงว้คซีน" นางกรินสแปนกล่าว
ตัวแทนจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของระเบียบการด้านสาธารณสุข เพื่อกำหนดมาตรฐานในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปยังต่างประเทศ โดยนายซูรับ โปโลลิคาช์วิลี เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) กล่าวว่า "ประชาชนไม่รู้ว่าจะเดินทางออกจากเมืองเจนีวาไปที่เมืองบาร์เซโลนาหรือไปที่อื่น ๆ ในยุโรปได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องน่าปวดหัว เพราะเราไม่รู้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร"
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยจำนวนผู้ที่เดินทางทั่วโลกลดลงราว 900 ล้านคน หรือมากกว่า 70% จากระดับของปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี เลขาธิการ UNWTO คาดว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอาจจะฟื้นตัวในปีหน้า
นอกจากนี้ เลขาธิการ UNCTAD และ UNWTO ต่างก็มีความเห็นตรงกันว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยนางกรินสแปนกล่าวว่า "เม็ดเงินมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่การลงทุนของภาคเอกชนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล"
ในการประชุม "Future of Tourism World Summit" ครั้งนี้ มีรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวจากกว่า 10 ประเทศ รวมทั้งผู้นำจากองค์กรและตัวแทนจากทั่วโลกกว่า 130 คนเข้าร่วมประชุมด้วย