World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 29, 2021 08:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค และฟอร์ด มอเตอร์ โดยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทเหล่านี้ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

-- เฟซบุ๊ก แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของโลก ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น "เมตา" (Meta) เพื่อสะท้อนจุดมุ่งหมายของบริษัทในการหันไปให้ความสนใจกับเมตาเวิร์ส (Metaverse) หรือพื้นที่เสมือนจริงที่ยูสเซอร์เข้าไปใช้ชีวิตแบบที่ต้องการได้

-- ฝ่ายข่าวกรองของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้ลดน้ำหนักลงไปประมาณ 20 กิโลกรัม จากเดิมที่เคยหนัก 140 กิโลกรัมเมื่อปี 2562 โดยเป็นการคำนวณจากการวิเคราะห์ใบหน้าจากภาพเคลื่อนไหว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการปฏิเสธข่าวลือที่ว่า นายคิม จอง อึน ได้หาบุคคลที่หน้าคล้ายกันมาปรากฏตัวแทนตน

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%

นอกจากนี้ ECB ระบุว่า ทางธนาคารจะยังคงซื้อพันธบัตรวงเงิน 2 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Programme (APP) และซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) จนถึงเดือนมี.ค.2565 วงเงินรวม 1.85 ล้านล้านยูโร

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2564 โดยนายทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลระบุว่าเป็นผลมาจากปัญหาการขาดแคลนชิป รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุดลง

ทั้งนี้ กำไรต่อหุ้นของแอปเปิลในไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 1.24 ดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 8.336 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้น 29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.485 หมื่นล้านดอลลาร์

-- บริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขกำไรสูงกว่าคาดในไตรมาส 3 โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายยา Keytruda ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็ง รวมทั้งยอดขาย Gardasil ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

ทั้งนี้ บริษัทมีกำไรที่ระดับ 1.75 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.55 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ เมอร์คได้ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรประจำปีนี้สู่ระดับ 5.65-5.70 ดอลลาร์/หุ้น จากเดิมที่ระดับ 5.47-5.57 ดอลลาร์/หุ้น

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเพียง 2.0% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.7%

การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3 ถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่เผชิญภาวะหดตัว 31.2% ในไตรมาส 2 ของปี 2563

ก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจกิจสหรัฐเติบโต 6.7% ในไตรมาส 2 และ 6.3% ในไตรมาส 1

ทั้งนี้ เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 3 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา และการขาดแคลนวัตถุดิบในภาคการผลิต ซึ่งกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ยอดขายรถยนต์ลดลง รวมทั้งตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภค

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 281,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 290,000 ราย และต่ำกว่า 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกยังคงสูงกว่าระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.3% สู่ระดับ 116.7 ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดัชนีปรับตัวขึ้นในเดือนก.ย.

การทำสัญญาขายบ้านลดลงทุกภูมิภาค โดยถูกกดดันจากราคาบ้านในระดับสูง และการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

เมื่อเทียบรายปี ดัชนีร่วงลง 8.0% ในเดือนก.ย.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ฝรั่งเศสจะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 เวลา 12.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่ยูโรโซนจะรายงานข้อมูลเดียวกันเวลา 16.00 น. ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ