World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 3, 2021 17:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประชาชนอย่างน้อย 25 รายเสียชีวิตและอีกกว่า 50 รายได้รับบาดเจ็บในเหตุโจมตีโรงพยาบาลทหาร "ซาร์ดาร์ โมฮัมหมัด ดาอูด ข่าน" ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศอัฟกานิสถานเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) โดยเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ 2 ครั้งตามมาด้วยเหตุโจมตีจากกลุ่มมือปืน

-- บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ ประกาศปิดระบบจดจำใบหน้า ซึ่งเป็นระบบที่ระบุตัวตนผู้ใช้งานในรูปภาพและวิดีโอโดยอัตโนมัติ หลังสังคมเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว

-- QS Quacquarelli Symonds สถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงอุดมศึกษาระดับโลก และผู้จัดอันดับมหาวิทยาลัย เผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเชียประจำปีล่าสุด ชี้ National University of Singapore ยังคงรั้งตำแหน่งมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของเอเชียเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

-- พลเอกโซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาเปิดเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาจะไม่อนุญาตให้ทูตพิเศษของอาเซียนเข้าพบกับนางออง ซาน ซูจี อดีตผู้นำเมียนมาซึ่งกำลังถูกควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากการเข้าพบนางซูจีถือเป็นการกระทำที่อยู่นอกขอบเขตกฎหมายของเมียนมา

-- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า รัฐบาลจะเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมโรคในกรุงปักกิ่ง ก่อนที่การประชุมผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จะเปิดฉากในสัปดาห์หน้า

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 93 รายเมื่อวานนี้ เพิ่มขึ้นจาก 54 รายที่พบเมื่อวันก่อน และเป็นยอดผู้ติดเชื้อในวันเดียวที่เพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดในจีน นอกจากนี้ กรุงปักกิ่งยังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 8 ราย สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศในการประชุมครั้งนี้ว่าจะเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

-- นักรบของกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกแถลงการณ์อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีที่โรงพยาบาลทหาร "ซาร์ดาร์ โมฮัมหมัด ดาอูด ข่าน" ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน

ทั้งนี้ นายซาบิฮุลลาห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตาลีบันยืนยันผ่านบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของเขาว่า เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 พ.ย.) เมื่อสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย IS จำนวน 5 คนได้บุกเข้าไปในโรงพยาบาลดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในเขตการทูต และได้ปลิดชีพประชาชน 7 คน เป็นผู้หญิง 3 คน, เด็ก 1 คน และทหารตาลีบันอีก 3 คน

-- บริษัทยาฮู (Yahoo) ประกาศยุติการใช้บริการในประเทศจีน โดยอ้างเหตุผลถึงความท้าทายในการดำเนินงานที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่จีนได้เดินหน้าใช้กฎหมายการเซนเซอร์ที่เข้มงวดเพื่อจัดการกับบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีหลายราย

-- กลุ่มตาลีบันประกาศห้ามใช้สกุลเงินต่างประเทศในอัฟกานิสถาน ซึ่งคำสั่งดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกอยู่ในภาวะชะงักงันต่อไป หลังจากที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอยู่ก่อนแล้ว อันเนื่องมาจากนานาประเทศได้ถอนการสนับสนุนด้านการเงินอย่างฉับพลัน

-- สายการบินลุฟท์ฮันซ่าเปิดเผยว่า ทางบริษัทพลิกกลับมาทำกำไรอีกครั้งในไตรมาส 3/2564 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่สายการบินของเยอรมนีรายนี้มีกำไรจากการดำเนินงานหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยได้รับอานิสงส์จากการที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทาง รวมถึงอุปสงค์การท่องเที่ยวที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูร้อน

-- ยอดช็อปปิงออนไลน์ของเกาหลีใต้ในไตรมาส 3 ของปี 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากประชาชนยังคงเลือกซื้อสินค้าทางออนไลน์ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ขึ้นอีกครั้ง

รายงานระบุว่า ยอดช็อปปิงออนไลน์ของเกาหลีใต้อยู่ที่ 48.23 ล้านล้านวอน (4.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.ค.-ก.ย. เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว

ตัวเลขดังกล่าวเป็นยอดช็อปปิงออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 2544 เนื่องจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ทำให้ประชาชนกังวลที่จะซื้อสินค้าในร้านค้าแบบออฟไลน์

-- เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ และดิสนีย์ทาวน์ ในนครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ประกาศเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ (3 พ.ย.) หลังจากปิดทำการชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

-- รัฐบาลออสเตรเลียเปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2565 โดยความตกลงดังกล่าวจะอำนวยความสะดวกให้การเปิดเสรีทางการค้าและบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

-- ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ผู้นำฟิลิปปินส์ ประกาศในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นจะถูกลงโทษ หากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ไม่ตามเป้าหมาย ในระหว่างที่ฟิลิปปินส์พยายามจะกลับมาเปิดประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ