ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังเผชิญภาวะหดตัวอย่างรุนแรงจากผลพวงของโรคโควิด-19 เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน RBA ได้ยกระดับคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อเนื่องจากแรงกดดันด้านอุปทานโลกส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ตอนแรก
ในการประชุมเศรษฐกิจประจำไตรมาส RBA ยอมรับว่าเงินเฟ้อได้กลับสู่กรอบเป้าหมาย 2-3% อีกครั้ง ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ถึง 2 ปี และอาจกดดันให้ RBA ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ว่าจะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลให้อยู่ในระดับต่ำได้
ขณะเดียวกัน RBA ยังได้ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่เคยคาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยระบุในรายงานล่าสุดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 มีความเป็นไปได้แล้วในขณะนี้ เมื่อพิจารณาถึงเศรษฐกิจที่อยู่ในทิศทางการฟื้นตัว
ทั้งนี้ แม้ว่าการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียทรุดตัวลงอย่างหนักในไตรมาส 3 แต่การที่ออสเตรเลียมีอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงกว่าอีกหลายประเทศในโลกนั้น ได้เปิดทางให้ออสเตรเลียสามารถเปิดเศรษฐกิจ และการบริโภคก็กลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง
RBA ระบุในรายงานความยาว 71 หน้าว่า "คาดว่าอุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในไตรมาสเดือนธ.ค.และมี.ค. เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 เพิ่มเติม"
ขณะนี้ RBA คาดการณ์ว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะอยู่ที่ 3% ภายในสิ้นปีนี้เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ 4% อย่างไรก็ดี RBA ได้ยกระดับการคาดการณ์ GDP ปี 2565 อีกกว่า 1% สู่ระดับ 5.5%
นอกจากนี้ RBA ยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานขึ้นสู่ระดับ 2.25% สำหรับสิ้นปี 2564 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการประมาณการก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1.75% อย่างไรก็ดี คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเชื่อว่าเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2.5% เท่านั้นภายในสิ้นปี 2566