ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนได้เรียกร้องให้มีการซื้อขายวัคซีนและเวชภัณฑ์อื่น ๆ อย่างเสรีทั่วโลก โดยระบุว่าค่านิยมของการใช้มาตรการเพียงฝ่ายเดียว (Unilateralism) และการกีดกันการค้า (Protectionism) ได้เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ขณะที่ระบบโลกาภิวัตน์ก็กำลังเผชิญอุปสรรค
-- สายการบินแควนตัส แอร์เวย์เปิดเผยวันนี้ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทได้รับยอดจองเที่ยวบินภายในประเทศเกือบ 500,000 รายการ หลังรัฐต่าง ๆ ในออสเตรเลียเริ่มอนุญาตให้ประชาชนเดินทางได้อีกครั้ง เทียบกับยอดจองเพียง 20,000 รายการในช่วง 2 สัปดาห์ในเดือนส.ค.ที่มีการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่
-- เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคเดโมแครตเปิดเผยว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีแนวโน้มที่จะโหวตร่างกฎหมายการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework - BIF) ในวันนี้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และนำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณด้านบวก หลังจากที่การโหวตร่างกฎหมาย BIF ได้ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง เนื่องจากสมาชิกสภาคองเกรสบางส่วนยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายดังกล่าว
-- สำนักข่าว Politico รายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนอาจตกลงกลับมาเปิดสถานกงสุลอีกครั้ง หลังจากที่ต้องถูกปิดไปเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐย่ำแย่ลงในยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งการกลับมาเปิดสถานกงสุลจะช่วยสร้างความคืบหน้าสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่มีรอยร้าวระหว่างสองประเทศ
-- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หลังเผชิญภาวะหดตัวอย่างรุนแรงจากผลพวงของโรคโควิด-19 เมื่อไตรมาสที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน RBA ได้ยกระดับคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อเนื่องจากแรงกดดันด้านอุปทานโลกส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ตอนแรก
ในการประชุมเศรษฐกิจประจำไตรมาส RBA ยอมรับว่าเงินเฟ้อได้กลับสู่กรอบเป้าหมาย 2-3% อีกครั้ง ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ถึง 2 ปี และอาจกดดันให้ RBA ไม่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาที่ว่าจะรักษาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลให้อยู่ในระดับต่ำได้
-- การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกล่าสุดในจีนยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ดำเนินมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายวงกว้าง
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) รายงานวันนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 68 ราย รวมผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการอีก 22 ราย
มณฑลเฮยหลงเจียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนพบผู้ติดเชื้อโควิดคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด และกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดล่าสุด หลังพบผู้ติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนในเมืองเฮยเหอทางตอนเหนือของมณฑล แม้จะดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม
-- นายแพทย์ฮานส์ คลูจ ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรป สังกัดองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ฟื้นตัวขึ้นจนอยู่ในระดับที่น่ากังวล โดยเขาเตือนว่า ยุโรปได้กลายเป็น "จุดศูนย์กลางของโรคระบาด" อีกครั้งหนึ่ง
-- กลุ่มนักสิทธิพลเมืองกว่า 500 กลุ่มได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุม เพื่อหาทางยุติความรุนแรงในรัฐชินของเมียนมา ซึ่งกลายเป็นพื้นที่ด่านหน้าในการต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหาร