นายวาลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยได้รับแรงกดดันหลักจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะค่อย ๆ ลดลงในปี 2565
นายดอมบรอฟสกิสกล่าวว่า ปัจจัยที่ผลักดันเงินเฟ้อดูเหมือนจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และสาเหตุเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ปัญหาคอขวดด้านอุปทาน และอุปสงค์ที่พุ่งขึ้นอย่างมากหลังจากการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายดอมบรอฟสกิสมีขึ้นหลังการประชุมคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปด้านเศรษฐกิจและการเงิน (ECOFIN) ซึ่งจัดขึ้นหนึ่งวันหลังการประชุมรัฐมนตรีคลังของประเทศสมาชิกยูโรโซน
นายดอมบรอฟสกิสกล่าวว่า มีปัจจัยหลายประการที่อาจขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหนึ่งในปัจจัยนั้นได้แก่เงินเฟ้อของยูโรโซนซึ่งอยู่ที่ 4.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2540
นายดอมบรอฟสกิสกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีคลังได้หารือเกี่ยวกับมาตรการที่นำเสนอโดย EC เมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีมาตรการที่จะชดเชยผลกระทบในทันทีของราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น และเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการรับมือกับผลกระทบในอนาคตด้วยมาตรการเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนกลุ่มที่เปราะบางที่สุดของสังคม