-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มีกำหนดจะจัดการประชุมสุดยอดทางออนไลน์ในสัปดาห์หน้า แม้ยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า การจัดการประชุมดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่จีนและสหรัฐยังคงมีข้อพิพาทเกี่ยวกับประเด็นไต้หวัน, สิทธิมนุษยชน และประเด็นอื่น ๆ อย่างไรก็ดี ผู้นำทั้ง 2 เห็นพ้องที่จะเดินหน้าเจรจาอย่างต่อเนื่อง
-- นายวาลดิส ดอมบรอฟสกิส รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในยูโรโซนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยได้รับแรงกดดันหลักจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่เพิ่มขึ้น แต่คาดว่าจะค่อย ๆ ลดลงในปี 2565
นายดอมบรอฟสกิสกล่าวว่า ปัจจัยที่ผลักดันเงินเฟ้อดูเหมือนจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และสาเหตุเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ปัญหาคอขวดด้านอุปทาน และอุปสงค์ที่พุ่งขึ้นอย่างมากหลังจากการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
-- หน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งชาติของฝรั่งเศส (HAS) ได้แนะนำให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ แทนการฉีดวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว วัคซีนของโมเดอร์นามีความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาโรคหัวใจมากกว่าวัคซีนของไฟเซอร์
-- นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ร่างกฎหมายการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Bipartisan Infrastructure Framework - BIF) วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งได้รับการอนุมัติโดยสภาคองเกรส รวมทั้งแผนการใช้จ่ายด้านสังคมและการลดโลกร้อนที่นำเสนอโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิตและการจ้างงานในสหรัฐ
-- สหภาพซึ่งเป็นตัวแทนข้าราชการสหรัฐกว่า 700,000 รายได้เรียกร้องให้ทำเนียบขาวขยายเส้นตายสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากที่กำหนดไว้ภายในวันที่ 22 พ.ย.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับกำหนดเส้นตายสำหรับการฉีดวัคซีนของผู้รับเหมาของรัฐบาลกลาง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวได้ขยายเส้นตายการฉีดวัคซีนสำหรับผู้รับเหมาของรัฐบาลกลางไปเป็นช่วงวันที่ 8 ธ.ค. - 4 ม.ค. เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ สามารถปฏิบัติตามได้ง่ายขึ้น เนื่องจากบางบริษัทเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในช่วงเทศกาลวันหยุดของสหรัฐ
-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเปิดเผยว่า จีนมีความเต็มใจที่จะทำงานร่วมกับสหรัฐภายใต้เงื่อนไขของความเคารพซึ่งกันและกัน โดยการเปิดเผยดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมทางไกลร่วมกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนมักจะใช้คำว่า "ความเคารพซึ่งกันและกัน" ในการเรียกร้องให้มีการสื่อสารที่ดีขึ้นกับสหรัฐ
-- อิหร่านยอมปล่อยเรือบรรทุกน้ำมันสัญชาติเวียดนามที่ยึดไว้แล้วในวันนี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่นั้นเริ่มผ่อนคลายลง ท่ามกลางประเด็นปัญหาด้านการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและสหรัฐที่ยังคงชะงักงัน
สำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างเว็บไซต์ MarineTraffic.com ระบุว่า เรือ MV Southys ของเวียดนามได้เดินทางออกจากท่าเรือบันดาร์ แอบบาสของอิหร่านแล้ว และได้เข้าสู่น่านน้ำสากลใกล้กับอ่าวโอมานในช่วงเช้าวันนี้
-- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ไบออนเทค บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี เปิดเผยรายได้ประจำไตรมาส 3 ของปี 2564 อยู่ที่ 6.1 พันล้านยูโร พุ่งขึ้นอย่างมากจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 67 ล้านยูโร
ตัวเลขดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากยอดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โคเมอร์เนตี/บีเอ็นที162บี2 (Comirnaty/BNT162b2) ที่ให้รายได้สุทธิประจำไตรมาส 3 พุ่งสูงถึง 3.2 พันล้านยูโร หลังจากที่ขาดทุน 210 ล้านยูโรในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐประกาศขยายเวลาบังคับใช้คำสั่งห้ามชาวอเมริกันลงทุนในบริษัทจีนซึ่งสหรัฐเชื่อว่าถูกกองทัพจีนควบคุมออกไปอีก 1 ปี โดยระบุว่าจีนกำลังขยายนิคมอุตสาหกรรมทางทหารด้วยการบังคับให้บริษัทต่าง ๆ ของจีนสนับสนุนกิจกรรมด้านการทหารและข่าวกรอง
ปธน.ไบเดนระบุเสริมว่า นิคมอุตสาหกรรมทางทหารดังกล่าวยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อความมั่นคง นโยบายต่างประเทศ และเศรษฐกิจของสหรัฐ
-- บุคลากรทางการแพทย์หลายพันคนในโรงพยาบาลและบ้านพักคนชราของเกาหลีใต้เตรียมหยุดงานประท้วงในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) โดยระบุว่า รัฐบาลเพิกเฉยต่อการเรียกร้องเรื่องภาระงานที่มากเกิน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สมาชิกของสหภาพบุคลากรทางการแพทย์แถลงว่า พวกเขาได้ขอให้รัฐบาลเพิ่มกำลังคนและดำเนินมาตรการสนับสนุนอื่น ๆ ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดในช่วงก่อนฤดูหนาว ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ประเทศเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
-- คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนของเยอรมนี หรือ STIKO ออกคำแนะนำในวันนี้ (10 พ.ย.) ว่า ให้ประชาชนอายุต่ำกว่า 30 ปีรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไบออนเทค/ไฟเซอร์เท่านั้น เนื่องจากพบการเกิดภาวะหัวใจอักเสบในกลุ่มคนหนุ่มสาวต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการฉีดวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นา